วันที่ 13 พ.ค. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท.พร้อมด้วย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โฆษกสหภาพฯ เดินทางมายังกระทรวงกลาโหม เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นเพื่อนำเงินในกองทัพ มาช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด-19
น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยให้เงินคนละ 5,000 บาท แต่ก็ยังมีบางส่วนตกหล่น เกิดความล่าช้า ดังนั้นจึงเรียกร้อง มายังกระทรวงกลาโหม ให้ปรับลดงบประมาณและระงับโครงการส่วนที่ไม่มีความจำเป็น เช่น โครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำงบประมาณไปใช้ช่วยเหลือประชาชนคนไทย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์โควิด-19 ได้อย่างถ้วนหน้า เพราะโรคระบาดและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำถือว่าเป็นภัยความมั่นคงสูงสุดของประเทศในตอนนี้
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมจะมีการปรับลดงบประมาณ เพื่อสมทบเข้ากองทุนโควิด จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะบริจาคมากกว่ากระทรวงอื่นๆ แต่อย่าลืมว่างบประมาณของกระทรวงกลาโหม ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 300 เปอร์เซ็นต์เกือบทุกปี และเป็นกระทรวงที่งบประมาณเพิ่มขึ้นมากที่สุด ดังนั้นการที่ออกมาอ้างว่า ได้เฉือนงบประมาณมาช่วยประชาชนแล้วนั้น จึงถือว่าน้อยมาก หากเปรียบเทียบออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ของงบประมาณประจำปีที่ได้รับ
ทั้งนี้ หากกระทรวงกลาโหม มีความจริงใจในการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริงจะสามารถตัดงบประมาณออกมาช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่านี้ และประชาชนส่วนใหญ่ ก็ไม่เห็นด้วยที่กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณเพิ่มในทุกๆ ปี และไม่เห็นด้วยที่จะมีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในช่วงนี้ แต่ควรไปช่วยเหลือประชาชนให้ได้เงินอย่างถ้วนหน้าก่อน
ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบเหตุการณ์สลายการชุมชมเดือนพฤษภาคม ปี 2553 นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้ามากและเป็นแรงบันดาลใจให้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ทำให้เห็นว่ารัฐบาลและกองทัพไม่เคยมีความปราณีกับประชาชนเลย เมื่อประชาชนจะเรียกร้องสิทธิต่างๆ ก็กลับมองว่าเป็นกบฎ จึงปราบปราบ
"กองทัพมองประชาชนเป็นเจ้านายตัวเอง เหมือนกองทัพในต่างประเทศหรือไม่ เพราะงบประมาณทั้งหลายในกองทัพ ก็มาจากเงินของประชาชนทั้งสิ้น" นายพริษฐ์ ตั้งคำถาม