ไม่พบผลการค้นหา
'วุฒิสภา' ให้ความเห็นชอบ ‘สุเมธ รอยกุลเจริญ’ เป็นตุลาการศาล รธน. หลังคลายข้อสงสัยอายุเกิน 68 ปี ขัดต่อ รธน. หรือไม่ ขณะที่จำนวน สว. เหลือ 244 คน ผู้นำเหล่าทัพ-ผบ.ตร. จ่อคิวรอรับตำแหน่ง

วันที่ 12 ธ.ค. ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ที่มี ศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาเรื่องด่วน ขอให้ที่ประชุมวุฒิสภาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่คณะกรรมาธิการสามัญได้ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของ สุเมธ รอยกุลเจริญ รองประธานศาลปกครองสูงสุด ในฐานะบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 

อย่างไรก็ตาม เฉลิมชัย เฟื่องคอน สว. ได้ลุกขึ้นอภิปราย โดยอ้างถึงมาตรา 201 (2) ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดคุณสมบัติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือมีอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่ไม่ถึง 68 ปี ในวันที่ได้รับการคัดเลือก หรือวันสมัครเข้ารับการสรรหา ทั้งนี้ สุเมธ มีอายุ 67 ปี 10 เดือน ในวันที่ตุลาการศาลปกครองประชุม ซึ่งถือว่ามีคุณสมบัติตรงตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อถึงวันนี้ (12 ธ.ค.) สุเมธ มีอายุเป็น 68 ปี 2 เดือน 24 วันแล้ว ถือว่าเกินกว่าอายุที่รัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติไว้

ทำให้คณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า สุเมธ ได้รับคัดเลือกจากที่ประชุมตุลาการศาลปกครอง ซึ่งขณะคัดเลือกอายุของ สุเมธ ยังไม่เกิน 68 ปี ถือว่าตรงตามรัฐธรรมนูญ แต่เนื่องจากการตรวจคุณสมบัติยังไม่แล้วเสร็จ ประกอบกับติดช่วงปิดสมัยประชุม ทำให้อายุเกินมา พร้อมกันนี้ยังได้แนบข้อมูลวันเดือนปีเกิดมาในประวัติ เพื่อคลายความกังขาของที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่ง สุเมธ ก็ยินยอมให้เปิดเผย โดย สุเมธ เกิดเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2498 จึงถือว่าอายุยังไม่เกิน 68 ปี ในกระบวนการคัดเลือก

ขณะที่ กาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ สว. ยืนยันจากการตีความมาตรา 201 (2) ของรัฐธรรมนูญว่า คุณสมบัติดังกล่าวอยู่ในกระบวนการคัดเลือกหรือสรรหา ซึ่งได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ขณะนี้วุฒิสภาอยู่ในขั้นตอนให้ความเห็นชอบ เช่นเดียวกับ สมชาย แสวงการ สว. ที่ให้การสนับสนุนข้อคิดเห็นของ กาญจนารัตน์ โดยย้ำว่าที่ประชุมวุฒิสภากำลังดำเนินการให้ความเห็นชอบ ไม่ใช่การคัดเลือกหรือสรรหา ซึ่งอายุของ สุเมธ ในวันคัดเลือกนั้น อยู่ในห้วงอายุไม่เกิน 68 ปี ก็สามารถเดินหน้าต่อได้

หลังจากนั้น สมาชิกวุฒิสภาไม่มีข้อติดใจจะอภิปรายต่อ ที่ประชุมจึงพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการฯ ให้เป็นการประชุมลับ 

ผลการประชุมวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภาลงคะแนนให้ความเห็นชอบ สุเมธ รอยกุลเจริญ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561) ด้วยคะแนนเสียง ให้ความเห็นชอบ 207 คะแนน ไม่ให้ความเห็นชอบ 3 คะแนน ไม่ออกเสียง 4 คะแนน 

ผลการออกเสียงลงคะแนนปรากฏว่า สุเมธ รอยกุลเจริญ ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา คือ ไม่น้อยกว่า 122 คะแนน จึงเป็นผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ประธานฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าจำนวนสมาชิกวุฒิสภาปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 24 คน เนื่องด้วย เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ได้มีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่ง สว. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป ทำให้องค์ประชุมของ สว. ที่เกินกึ่งหนึ่งอยู่ที่ 122 คน

ทั้งนี้ สำหรับ สว. ที่เป็นโดยตำแหน่ง ซึ่งรอเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่เป็น สว. อีก 5 คน คือ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.), พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) , พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) , พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)