ไม่พบผลการค้นหา
พิชัยย้ำน่าเป็นห่วง ยุทธศาสตร์ชาติกระทบเศรษฐกิจระยะยาว แย้ง 'สมคิด' เศรษฐกิจไม่ได้ดีอย่างที่บอก เพราะ หนี้เพิ่ม ว่างงานพุ่ง การลงทุนจริงหดหาย และ ต่างชาติเทขายหุ้นไทย

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า อยากขอเตือน และ ยังขอยืนยันว่ายุทธศาสตร์ 20 ปี ที่บังคับรัฐบาลในอนาคตต้องปฏิบัติตาม จะเป็นปัญหาของประเทศ ถึงขนาดอาจทำให้ประเทศลงเหวได้ โดยอยากให้คิดง่ายๆว่า เอาคนที่ฉลาดที่สุดในโลก 10 คนมาถาม เชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าตอบว่าอีก 20 ปีข้างหน้า โลกจะเป็นอย่างไร และรัฐบาลและคสช. จะมีความรู้สู้พวกเขาเหล่านั้นได้หรือไม่ จึงจะมากำหนดยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่รัฐบาลอนาคตต้องปฏิบัติตามและห้ามเปลี่ยนแปลง

นายพิชัยกล่าวว่าไม่อยากให้รัฐบาลและ คสช. สร้างปัญหาให้กับประเทศเพิ่มขึ้นอีก เพราะแค่รัฐธรรมนูญนี้ก็มีปัญหามากมายอยู่แล้ว และการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำได้ยากหรืออาจทำไม่ได้เลย ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่อยู่แล้ว ยังจะมาทำยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ก็จะยิ่งเป็นปัญหาเพิ่มขึ้นอีก อีกทั้งจะมีการเลือกตั้งอยู่แล้วในต้นปีหน้า การกำหนดอนาคตของประเทศน่าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมามากกว่า

อดีตรัฐมนตรีพลังงานระบุด้วยว่า ถ้าหากดูผลงาน 4 ปีที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นว่ารัฐบาลและคสช. ทำให้ประเทศดีขึ้น แถมยังอาจเห็นว่าทำแย่ลง ขนาดทำมา 4 ปียังแย่ขนาดนี้แล้วจะมากำหนดยุทธศาสตร์ 20 ปี จะไม่ยิ่งย่ำแย่ไปกันใหญ่หรือ

"จะให้กลุ่มคนที่บริหารประเทศล้มเหลวมากำหนดอนาคตให้กับประเทศได้อย่างไร ไม่อยากให้เอาอนาคตของประเทศมาเสี่ยงกับการจะใช้ยุทธศาสตร์ 20 ปี เพื่อเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาปากท้องของพี่น้องที่มีรายได้น้อยจะยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีก"

ทั้งนี้ อยากขอเตือนว่า สภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงไม่ได้ดีอย่างที่ นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจพยายามออกมา เกลี่ยกล่อมให้คนเชื่อ แม้ตัวเลขจะดีขึ้นบ้าง แต่ใช้เวลาถึง 4 ปี กว่าจะมากระเตื้อง ซึ่งในระหว่าง 4 ปีนี้ ประชาชนลำบากกันอย่างมากแล้ว เศรษฐกิจไม่ได้ดีตลอด 4 ปีอย่างที่พลเอกประยุทธ์เข้าใจหรืออาจได้รับรายงานมาผิดๆ อีกทั้งยังมีปัญหาและความเสี่ยง ซึ่งตอกย้ำเรื่องรวยกระจุกจนกระจาย เช่น หนี้เสียในระบบธนาคารที่ยังเพิ่มขึ้น หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูง การว่างงานมีมากขึ้นถึงกว่า 470,000 คน โดยเฉพาะระดับปริญญาตรีว่างงานถึงกว่า 1.7 แสนราย

"พวกเขาคงไม่ได้เลือกงานอย่างที่พลเอกประยุทธ์ตำหนิ บอกลงทุนการตั้งโรงงานใน 5 เดือนของปีนี้ กลับลดลงถึง 26.16 % สวนทางกับยอดขอส่งเสริมการลงทุนที่นายสมคิดคุยนักคุยหนาว่ามียอดเพิ่มขึ้น ซึ่งแปลว่ามีแต่ยอดขอส่งเสริมแต่ไม่ได้มีการลงทุนจริง และ การลงทุนของต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ที่นายสมคิดชอบอ้างถึงกลับมียอดการเทขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติกว่า หนึ่งแสนหกหมื่นล้านบาทแล้วตลอด 5 เดือนของปีนี้ และระยะหลังนี้ยิ่งมียอดการเทขายสุทธิหนักมากพร้อมกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ทรุดลงซึ่งแสดงถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อรัฐบาลและสถานการณ์ของประเทศใช่หรือไม่ จึงอยากให้นายสมคิดได้ออกมาอธิบายด้วย หรือนายสมคิดจะบอกว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถโตได้เองโดยไม่พึ่งต่างชาติอีก เหมือนที่เคยบอกในปีแรกๆ"

ทั้งนี้นายพิชัยอ้างอิงถึงข้อมูลจากธนาคารโลกที่เตือนว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะตกต่ำลงได้ใน 1-2 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งไทยเองก็จะต้องระวัง และธนาคารโลกยังเตือนอีกว่าถึงแม้ปีนี้ไทยจะขยายตัวได้ดีแต่ปีหน้าและปีต่อไปการเติบโตของไทยน่าจะขยายตัวได้ลดลง ซึ่งจะเป็นปัญหาได้ 

ข่าวเกี่ยวข้อง :