ไม่พบผลการค้นหา
ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยืนยันวิดีโอของ 'ทักษิณ'กับแกนนำพรรคเป็นการแสดงความเห็น ไม่เข้าข่ายบงการ ครอบงำพรรคเพื่อไทย ขณะที่ ประธาน กกต. ย้ำเป็นดุลพินิจเลขาธิการ กกต.จะชง กกต.ยุบพรรคหรือไม่

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตรวจสอบวีดีโอคอลของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับแกนนำพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่าไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และ มาตรา29 ที่ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคควบคุมครอบงำกิจกรรมของพรรค ซึ่งเป็นเหตุให้ยุบพรรคเพื่อไทยได้ พร้อมตั้งคำถามกลับไปยัง กกต.ว่า กรณีที่เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยได้ยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้ามาครอบงำหรือไม่ และพรรคเพื่อไทย ได้เปิดให้บุคคล ภายนอกเข้ามา ครอบงำการทำกิจกรรมต่างๆของพรรคหรือไม่ 

นายชูศักดิ์ ยืนยันว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยไม่ได้ขาดความเป็นอิสระ ไม่ได้ถูกบงการ และการที่อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่าสมาชิก พรรคเพื่อไทยถูกดูด รวมถึงพรรคเพื่อไทยจะครองเสียงข้างมากในพื้นที่ภาคอีสาน เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายถูกร่างขึ้นมาเพื่อใช้กับพรรคเพื่อไทยเป็นการเฉพาะหรือไม่ รัฐประหารมีเป้าหมายอยู่ที่พรรคเพื่อไทย กฎหมายที่บัญญัติขึ้นจึงต้องถามว่าเป็นไปตามหลักนิติธรรมด้วยหรือไม่

ด้าน นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า กรณีดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายสำนักงานโดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพียงนำเรื่องแจ้งให้ กกต.ทราบในการประชุมวันนี้เท่านั้น โดยแจ้งว่าได้ให้นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ สอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วว่าเข้าข่ายความผิดว่าด้วยการห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการควบคุม ครอบงำ ชี้นำกิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรค หรือสมาชิก ขาดความอิสระไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ตามมาตรา 28 และมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ 

ประธาน กกต. ย้ำว่า กรอบเเนวทางและระยะเวลาเป็นดุลพินิจของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ในฐานะนายทะเบียน โดย กกต.จะดูแลเรื่องนโยบายการจัดการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ จนกว่าจะได้ความชัดเจนว่าเป็นความผิด กกต.จึงจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และส่วนตัวได้ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดให้ดี เพื่อรักษาความเป็นกลางและไม่เป็นการกลั่นแกล้งพรรคการเมือง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง