ไม่พบผลการค้นหา
รมว.ยุติธรรม ปัดให้รายละเอียด ตร.บุกจับชาวกัมพูชา อ้างเป็นมือโพสต์ลงเว็บระบุ 'ประยุทธ์' ไล่ประชาชนไปเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมัน ปัดตอบคำถาม 'จับแพะหรือไม่' โยนเจ้าหน้าที่แถลงความชัดเจน ล่าสุดมีรายงาน ตร.ให้ผู้ต้องหาชาวกัมพูชาได้ประกันตัว เตรียมบุกรวบชายกัมพูชาอีกราย

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม ระบุถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมชาวกัมพูชา ที่โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไล่ประชาชนให้ไปเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมัน

แต่ระบุว่าเรื่องนี้มีความคืบหน้าพอสมควร ขณะนี้ต้องรอให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดำเนินการ เนื่องจากเรื่องนี้มีความซับซ้อนและอ่อนไหวพอสมควร ไม่สามารถที่จะพูดในรายละเอียดลึกๆ ได้ แต่ยืนยันว่าจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายให้ได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้ติดตามและดำเนินการ ส่วนหนึ่งเป็นชุดเดิมและปรากฏเป็นวงในที่อยู่ในกลุ่มต่างประเทศ แต่ตนเองพูดมากไปไม่ได้ เพราะอาจจะเกิดผลกระทบ

ทั้งนี้ มีความเชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่ นั้น พล.อ.อ.ประจิน ปฏิเสธว่า ขณะนี้ตนเองไม่ได้ดู ว่าเชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่ แต่ดูเฉพาะการละเมิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  

ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าเป็นการจับแพะหรือไม่ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำงานต้องมีความชัดเจนแล้ว ถึงจะออกมาแถลงข่าวได้ จึงต้องรอให้มีความชัดเจนก่อนแล้วกัน

ตร.นำทีมเหินฟ้าควบคุมตัว 'รัตนะ เฮง' จากกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) พร้อมคณะเดินทางกลับจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมควบคุมตัวนายรัตนะ เฮง สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหมายจับศาลอาญาที่ 1154/2561 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2561 ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน จึงนำตัวนายรัตนะ เฮง ที่ถูกจับกุมที่กัมพูชา มาดำเนินคดีในประเทศไทย

โดยช่วงเช้าของวันที่ 31 พ.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เข้าพบ พล.อ.เซา ซก คา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนของกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือติดตามตัว นายรัตนะ เฮง ซึ่งทางการกัมพูชาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเบื้องต้น พล.อ.เซา ซก คา สั่งการให้เจ้าหน้าที่กัมพูชาสนธิกำลังกับตำรวจไทยลงพื้นที่ โดยกระจายกำลังออกเป็นสองชุด เข้าตรวจสอบบ้านพักของ นายรัตนะ จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 31 พ.ค.มีรายงานว่า สามารถคุมตัว นายรัตนะ เฮง ได้ที่ห้างสรรพสินค้าซาเตียนเมียนเจย กลางกรุงพนมเปญ ขณะเดินซื้อสินค้าภายในห้างดังกล่าว จึงคุมตัว นายรัตนะ มาทำการสอบสวน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ได้สืบจากหนังสือเดินทางเลขที่ N1745558 ทราบว่านายรัตนะ เป็นผู้ทำเว็บไซต์ข่าวปลอมชื่อ Ratstas.com โดยสามารถจับกุมตัวนายรัตนะ เฮง ได้ที่ห้างซาเตียนเมียนเจย ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ขณะเดินซื้อสินค้าภายในห้างดังกล่าว

จากการสอบสวน นายรัตนะ ให้การแบ่งรับแบ่งสู้ โดยอ้างว่าเว็บไซต์ดังกล่าวจดในนามของตนจริง ซึ่งการเปิดสมัครเว็บไซต์ที่ประเทศกัมพูชาจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวบุคคลด้วยเลขหน้าบัตรเครดิต แต่เพื่อนเป็นผู้ขอให้เปิดเว็บไซต์ดังกล่าวให้ อีกทั้งยังอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ และกล่าวขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่สร้างความเสียหายให้กับทางรัฐบาล

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 14 และ 17 ของพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับเป็นเงิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อหาตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทย ก่อนคุมตัวไปสอบสวนขยายผลว่ามีผู้ใดอยู่เบื้องหลังในการจ้างวานเพื่อบิดเบือนข่าวสารหรือไม่ เพื่อดำเนินคดี ก่อนนำตัวฝากขังที่ศาลอาญา

สื่อเผย ตร.ให้ประกันตัว 'รัตนะ เฮง'

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากเนชั่น ทีวี และ คมชัดลึก ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนายรัตนะ เฮง ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 31 พ.ค. โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 9 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จากทางการกัมพูชาจะเดินทางมายื่นขอประกันด้วยเงินสด 100,000 บาท

ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. ระบุว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหา ยังให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่มีความรู้ด้านภาษาไทย อีกทั้งก่อนหน้านี้ เพื่อนได้ยืมบัตรเครดิตไปรูดเพื่อขอเปิดบัญชีในการลงทะเบียนระบบไอทีเพื่อเปิดใช้บริการเว็บไซต์ ในการลงข่าวต่างๆ โดยไม่ทราบว่าเพื่อนรายนี้ลงข่าวโจมตีผู้นำของประเทศไทย แต่ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายรัตนะ เฮง

ขณะเดียวกัน ยังทราบตัวผู้กระทำความผิดอีกราย คือ นายหลุย อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา โดยหลังจากนี้จะประสานเจ้าหนาที่ประเทศกัมพูชาเพื่อเดินทางเข้าไปในประเทศกัมพูชาเพื่อเชิญมาสอบสวนที่ บก.ปอท. ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :