หลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (5มิ.ย.) โดยสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกผู้แทนราษฎร เสียงข้างมากจำนวน 500 เสียง โหวตให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และสมัยที่ 2 อย่างไรก็ดีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ระบุว่า "กาลเวลาพิสูจน์ เราไม่เคยทรยศประชาชน 7พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ยึดมั่นต่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน การยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้องจะทำให้เรายืดอกได้อย่างภาคภูมิใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด เรายืดอกอย่างภาคภูมิว่า เราได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วเพื่อปกป้องประชาธิปไตยจนถึงที่สุด"
เช่นเดียวกับนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพรรคร่วม ทั้ง 7 พรรค ที่ได้ช่วยกันทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องประชาธิปไตย หยุดการสืบทอดอำนาจ แม้ว่าภารกิจนี้จะยังไม่สำเร็จ แต่ขอยืนยันว่าเราจะร่วมกันทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และขอขอบคุณทุกกำลังใจของพี่น้องประชาชนที่ส่งมาถึงพวกเราทุกช่องทาง เรายังคงยึดมั่นในทุกคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพี่น้องทุกคน"
ขณะเดียวกันนายสมคิด เชื้อคง ส.ส. อุบลราชธานี ระบุว่าตัวเลขในการเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จำนวน 500 เสียง และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 244 เสียง สะท้อนให้คนไทยเห็นว่า ส.ว.250 คนนั้น มีฤทธิ์มีเดชขนาดใหน หากไม่มี ส.ว. พล.อ.ประยุทธ์จะได้เพียง 250 คะแนน นั่นคือ คะแนน ส.ส.ที่จะไปต่อกรกันในสภาผู้แทน ซึ่งเกินกันแค่ 5 เสียง ส่งผลให้ต่อไปรัฐบาลหากอยากอยู่ยาว ต้องซื้องูเห่าเมื่อมีการโหวตกฎหมายสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมามันมีอยู่จริง แต่ละพรรคต้องไปกวดขันกันเอาเอง
นอกจากนี้นายสมคิด ระบุว่า พรรคที่เปลือยกายล่อนจ้อนก็คือ 'ประชาธิปัตย์' ที่ใช้นโยบายไก่สามอย่าง นั้นคือ 'คิดอย่างพูดอีกอย่างทำอีกอย่าง' เหมือนเดิม ส่วนอีกพรรคคือภูมิใจไทย นี่คือพรรคที่หลอกชาวบ้านและคงไม่ต้องอธิบายเพราะเชื่อว่าประชาชนทราบดี ทั้งนี้ผลพวงของรัฐประหาร เมื่อคืนนี้คือ การสถาปนา "ระบอบประยุทธ์" อย่างแท้จริง
ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขื่นชมการอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์คุณสมบัติพลเอกประยุทธ์ของ ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 7พรรคอย่างเข้นข้น และสังเกตุว่ามีหลายเรื่องที่ควรจะมีการตรวจสอบต่อไป และที่น่ากังขาคือทำไมนายชวน หลีกภัยประธานรัฐสภา ประธานที่ประชุมเมื่อวานนี้ไม่ยอมตอบคำถามที่ ส.ส.จิรายุ ห่วงทรัพย์พรรคเพื่อไทยได้ถามหลายครั้งว่า ที่ประชุมรัฐสภาสามารถพิจารณา คุณสมบัติของพลเอกประยุทธ์ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช่หรือไม่เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญก่อนที่จะโหวต และก็ปล่อยให้มีการโหวตโดยที่ประธานรัฐสภาไม่ได้ใช้อำนาจวินิจฉัยตามการเสนอของสมาชิก
ดังนั้นในวันหน้าหากมีการนำเรื่องนี้กลับมาพิจารณาทบทวนอีกก็ขอให้ประธานรัฐสภาปฎิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางเพื่อรักษามาตรฐานของฝ่ายนิติบัญญัติอันทรงเกียรติด้วย
อ่านเพิ่มเติม