จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ มีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์นายศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร เข้ารับการตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร แล้วจับได้ใบแดง และพบภายหลังว่านายศักดิ์ฤทธิ์ ร้องไห้ต่อเนื่องเพราะความเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครดูแลยาย วัย 75 ปี จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
เพจเฟซบุ๊ก กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ระบุว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (18 เม.ย.61) เจ้าหน้าที่ทหาร สัสดี ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับครอบครัวของนายศักดิ์ฤทธิ์ โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า "เหตุการณ์ในตอนนั้น ร้องไห้เพราะตกใจ ไปคนเดียว ไม่มีคนให้ปรึกษา ตนเองจับได้ผลัด 2 ในเดือน พ.ย. นี้ ก็จะเข้าไปทำหน้าที่"
ทั้งนี้ นายศักดิ์ฤทธิ์ เป็นผู้หารายได้ให้กับครอบครัว ซึ่งประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นพนักงานธุรการ บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า ตั้งอยู่ถนนท่าดินแดง เขตคลองสาน รายได้วันละ 300 บาท ส่วนป้ากับยายช่วยกันร้อยพวงมาลัย แล้วให้ยายไปขายบริเวณเซเว่น อีเลฟเว่น หน้าวัดนาคปรก ซ.เพชรเกษม 23 รายได้วันละประมาณ 200 บาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดืนอ ต.ค.- ธ.ค. 2560 นายศักดิ์ฤทธิ์ เคยทำงานอยู่ที่สำนักพระราชวัง ฝ่ายสนมมีหน้าที่ในการรับเสด็จ แต่ถูกให้ออก เนื่องจากยังไม่ผ่านการตรวจเลือกทหารและบัตรเขียวถูกยกเลิก
ส่วนชื่อ 'นพดล' ที่ใช้ในเฟซบุ๊กเป็นนามแฝงไม่มีเจตนาอย่างอื่น และปัจจุบันเลิกเรียนแล้ว เนื่องจากไม่มีเงิน
ด้าน เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam รายงานว่า พลตรี ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 เปิดเผยว่า นายศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทรได้ขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร เพื่อการศึกษามาแล้ว 2 ครั้ง ในครั้งนี้ได้ตัดสินใจขอยกเลิกการผ่อนผัน และเข้ารับการตรวจเลือก โดยสมัครใจเข้าจับฉลาก และจับได้ฉลากใบแดง (ทบ.ผลัดที่ 2) ทำให้ต้องรับราชการ 2 ปี ในผลัดที่ 2 เนื่องจากวุฒิที่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้คือ ปวช.โดยจะต้องเข้ารับราชการในเดือน พ.ย. 2561 นี้
ทั้งนี้ นาย ศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร มีภาระต้องดูแลยาย 1 คน อายุ 75 ปี และป้าอีก 2 คน วัย 55 ปี ซึ่งป่วย และป้าอีกคนอายุ 48 ปี กับหลานชายอายุ 16 ปีอีก 1 คน ที่กำลังเรียนหนังสือ และสภาพครอบครัวมีฐานะยากจน
ในกรณีนี้ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ พลโทกู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้ความสนใจและสั่งการให้สัสดีในพื้นที่รับผิดชอบ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และเตรียมการดูแลอย���างเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ นายศักดิ์ฤทธิ์ จะเข้าประจำการ ที่หน่วย มทบ.11 ถ.พระราม 5 เขตดุสิต กทม. ใน 1 พ.ย. 2561 นี้ ซึ่งหน่วยจะดูแล ทั้งตัวน้องทหารใหม่และยายให้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างความสบายใจ คลายกังวล สามารถเข้ารับการฝึก และทำหน้าที่ของตนสมกับเป็นชายชาติทหาร ที่ได้ทำหน้าที่ของตนตามกฏหมายอย่างสมบูรณ์
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ยืนยันว่า การตรวจเลือกเป็นไปตามกระบวนการ อย่างเปิดเผยและยุติธรรม ไม่ได้กลั่นแกล้งเพื่อสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใด และเมื่อทราบปัญหาก็เร่งหาทางแก้ไขอย่างรวดเร็วในทุกราย
ขณะที่ ในโซเซียลมีการกล่าวถึงเรื่องนี้ อาทิ ในเพจ Smart Man Smart Soldier ขึ้น #ไม่ต้องห่วงนะน้องเล็กของกองทัพ ยายของนายก็คือยายของพวกเรา เราครอบครัวเดียวกัน จากนี้จะมีคนดูแลยายทั้งกองพันเลยนะ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน "ครอบครัวกองทัพบก" หรือ #ครอบครัวกองทัพบก
รวมถึงในเพจของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ได้รายงานภาพและการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ สัสดี เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
กองทัพขอบคุณชายไทยสมัครเป็นทหารกว่า 4 หมื่นนาย ลดลงจากปีก่อน 11%