วันที่ 5 ธ.ค. ที่ท้องสนามหลวง พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์แรงงานไทยที่เหลืออยู่ในอิสราเอลขณะนี้ โดยระบุว่า ให้ทางกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ประสานงานกับแรงงานไทย ส่วนเรื่องของความคืบหน้าในการช่วยเหลือตัวประกัน 9 คนที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวนั้น ยังไม่มีคงามคืบหน้า
พร้อมยังได้ชี้แจงถึงการจ่ายเงินชดเชยแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอล 50,000 บาท ว่า ไม่ได้เลื่อนจ่าย แต่สาเหตุที่จ่ายล่าช้า เนื่องจากจะต้องส่งหนังสือเวียนรับฟังความเห็นจากทุกกระทรวง ตอนนี้เรื่องจึงอยู่ที่กระทรวงการคลังกำลังพิจารณา และเตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 12 ธ.ค. นี้
ส่วนทางกระทรวงแรงงานได้มีการประสานเพื่อให้แรงงานเดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอลหรือไม่ พิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ในอิสราเอลยังมีการสู้รบกันอยู่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี พยายามให้ข้อมูลไปแล้ว ฉะนั้นตอนนี้ขอให้ดูแลตนเอง ขณะเดียวกันทางกระทรวงแรงงานก็กำลังหางานในประเทศอื่นให้กับผู้ที่เดินทางกลับมา ในช่วงต้นปีจึงน่าจะมีการส่งแรงงานบางส่วนไปทำงานด้านการเกษตรที่เกาหลีใต้ซึ่งเป็นลักษณะงานเดียวกับในอิสราเอล พร้อมกับได้ประสานงานกับอีกหลายประเทศที่แรงงานมีทักษะตรงสายงานเหมือนกับที่ไปทำที่อิสราเอล อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเมื่อมีทักษะมากขึ้นก็จะทำให้ได้รับค่าตอบแทนที่สูง ซึ่งขณะนี้พบว่ามีบางประเทศแจ้งความต้องการแรงงานไทยมาแล้ว แต่ค่าตอบแทนไม่สูงเหมือนกับในอิสราเอล แรงงานจึงไม่ค่อยอยากไปนัก
ทั้งนี้ สำหรับในส่วนของประเทศอิสราเอลยังมีความต้องการแรงงานไทยอยู่ และมีการเปิดรับอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะแรงงาน 9,000 กว่าคนที่เดินทางกลับมา ทางอิสราเอลก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะรับกลับไปทำงานทุกคน หากเทียบในอดีตเมื่ออยู่ครบสัญญา 5 ปี 3 เดือน ก็จะไม่สามารถกลับไปทำงานต่อได้ ยกเว้นหนีไปทำโดยผิดกฎหมาย แต่ในขณะนี้ทางการอิสราเอลต่ออายุให้กับแรงงานอีก 1 ปี