วันที่ 13 ก.พ. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี สส.พรรคร่วมรัฐบาลเตรียมยื่นญัตติด่วนทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ รวมถึงแนวทางป้องกันปราบปรามพฤติกรรม ข่มขู่ ท้าทาย ให้ร้ายสถาบันฯ ว่า ขอทราบมาว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันเข้าชื่อเพื่อเสนอญัตติ เรื่องนี้ก็เป็นการแสดงความกังวลและแสดงความจงรักภักดีของ สส.พรรคภูมิใจไทย คงจะมีการอภิปรายและเสนอที่เขาเห็นว่าสมควรได้ปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น 

อนุทิน กล่าวว่า คิดว่ากฎหมายที่มีในปัจจุบันถ้าเราทำตามอย่างเคร่งครัดก็เพียงพอที่จะดำเนินการกับคนจาบจ้วง และละเมิดสถาบันได้

เมื่อถามว่า ความเห็นต่างที่เกิดขึ้นควรจะใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรในการ แสดงออกมากกว่าในพื้นที่สาธารณะใช่หรือไม่ อนุทิน ระบุว่า การใช้เวทีสภาคือการทำถูกต้องตามกฎหมายในเรื่องของเวทีสาธารณะ ก็เป็นเรื่องของคนที่เป็นคนไทยที่ถูกปลูกฝังมาดี มีพื้นฐานครอบครัวที่ดีมีการอบรมสั่งสอนที่ดี เขาาจะมีความจงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์โดยสายเลือดโดยธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเราจะไปห้ามเขาแสดงความห่วงใยของสถาบันอันเป็นที่เคารพรักของพวกเขาก็คงห้ามไม่ได้ ก็ขอให้ทำด้วยความรัก ความศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ไม่ใช่ไปท้าตีท้าต่อยกับใครเพราะเป็นเพียงการให้กำลังใจบุคคลอันเป็นที่รักของเรา

กินข้าวพรรคร่วม กระชับความสัมพันธ์

 อนุทิน กล่าวถึงการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันของแกนนำ และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล วันนี้ (13 ก.พ.) ที่โรงแรมย่านพญาไท ว่า ตนจะไปร่วมงานดังกล่าวด้วย โดยการงานดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำพรรคร่วม ได้ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารบ้านตานิดเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการพูดคุยว่าควรจะต้องมีการขยายวง ให้ สส.พรรคร่วมรัฐบาลได้มีความใกล้ชิดกัน และสร้างความสัมพันธ์ในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น โดย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล จึงขอเป็นผู้เชิญในครั้งแรกก่อน 

“งานวันนี้ถือโอกาสได้พูดคุยกัน ใครมีความสงสัยเคลือบแคลงใจ มีอะไรต้องเคลียร์กันหรือไม่ ความเข้าใจกันบางทีอยู่ในสภาฯ อภิปรายเบาบ้างแรงบ้าง วันนี้ก็น่าจะได้คุยกัน เพื่อให้การทำงานเข้มแข็ง วันนี้เห็นหรือไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าอยู่ด้วยกันด้วยสามัคคี อย่าให้มีโรคแทรกที่ทำลายความสามัคคี และเอกลักษณ์ของความเป็นไทย“ 

เมื่อถามว่า ในการรับประทานอาหารร่วมกันครั้งต่อไปจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นเจ้าภาพใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เราก็ต้องมีสปิริต เพราะอยู่ร่วมกัน จะให้เขาเลี้ยงตลอดคงไม่ไหว

ไม่เห็นด้วย เด็กเคลื่อนไหว กระทบสถาบัน

ภูมิธรรม กล่าวถึงปรากฏการณ์การเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่กับสถาบัน ว่ามองอย่างไรในฐานะที่เป็นนักเคลื่อนไหวเก่า ว่า ชุดความคิดก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ประเทศไทยเป็นประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สถาบันเพราะฉะนั้นในเรื่องเกี่ยวกับสถาบันที่ผ่านมา ในอดีตเราก็ไม่เคยที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว และเป็นสิ่งที่ต้องให้ความเคารพนับถือ ของประชาชนคนไทยทุกคน เป็นสิ่งที่ยึดโยงจิตใจของคนไทยด้วยกัน 

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าต้องดูตามความเป็นจริง จะบอกว่าใช้สิทธิเสรีภาพก็พูดได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ซึ่งเป็นปัญหาละเอียดอ่อนที่คนไทย ส่วนใหญ่เคารพนับถือ ยิ่งต้องใช้ความ ระมัดระวัง เรื่องที่เกิดขึ้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ข้อเท็จจริง ประเด็นไหนที่ไปละเมิดกฎหมายก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตัดสิน ตามกระบวนการยุติธรรม 

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นด้วยหรือไม่นั้น ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ใครที่จะใช้สิทธิเสรีภาพ ก็ต้องคำนึงถึง หลายๆ อย่าง การใช้สิทธิเสรีภาพของแต่ละประเทศมีขอบเขต 

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวมีการเมืองหนุนหลัง ภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่อยากให้นำการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ และจะมีคนเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ตนก็ไม่สามารถรู้ได้ เพราะเราไม่ได้ทราบข้อเท็จจริง แต่ถ้าถามหลักการก็คือไม่ควรเข้าไปเกี่ยว ไม่ควรทำอะไรก็ตามที่เหมือนเป็นการหนุนหลัง ให้มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยไม่พึงประสงค์ และจะผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ก่อนย้ำว่าตนไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น