วันที่ 20 ธ.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ครั้งที่ 12 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 โดยมี พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมเปิดให้สมาชิกวุฒิสภาหารือปัญหาความเดือดร้อน
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก ส.ว. กล่าวว่า 2-3 วันที่ผ่านมานี้ มีข่าวตามสื่อต่างๆ ว่า อดีตแกนนำม็อบร่ำรวยผิดปกติ บางคนเปิดร้านกาแฟหรู มีกระเป๋าแบรนด์เนมหลายใบ ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยบัญชีแกนนำม็อบมีเงินเข้าบัญชี 6 ล้านบาทกรณีนี้ประชาชนข้องใจมาก ว่าเขาเอาเงินจากไหน ซึ่งไม่พบหลักฐานรายได้จากงานประจำ และได้คำตอบว่า ได้มาจากเงินบริจาคจากความศรัทธาของประชาชน ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่หากได้รับเงินบริจาคจากนักการเมืองต่างประเทศที่ต้องการล้มล้างสถาบัน จึงอยากเรียกร้องให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงเพื่อหาหลักฐาน เพื่อประกอบการดำเนินคดี และขอให้ศาลยุติธรรมเร่งดำเนินคดีที่คั่งค้างให้พิจารณาโดยเร็ว
นพ.เจตน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าของบัญชีที่ได้รับเงินโอน ระบุว่าเป็นเงินที่โอนจากประชาชนซึ่งศรัทธาในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และเป็นเงินบริจาค ไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่ถ้าโอนจากต่างประเทศ หรือนักการเมืองที่ต้องการล้มล้างรัฐบาลถึงจะเป็นความผิดและสอบเส้นทางการเงินได้ แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนจึงยากที่จะใช้อำนาจรัฐสอบสวนได้
นพ.เจตต์ กล่าวอีกว่า เมื่อสู้แล้วรวยทำให้หลายคนในม็อบอยากเป็นแกนนำ อยากรวย จูงใจให้เกิดม็อบทำให้ประเทศวุ่นวาย มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมตามมา ผู้นำม็อบที่เชื่อมั่นว่าเป็นการล้มล้างอำนาจเผด็จการควรออกมาเปิดเผยบัญชี หากไม่ทำจะทำให้สิ่งที่ประชาชนเชื่อมาตลอดว่า มีคนแอบอยู่เบื้องหลังก่อความวุ่นวายให้ประเทศคือเรื่องจริง ไม่ว่าจะโอนมาจากใน หรือนอกประเทศ มันจะไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธอันเป็นสิทธิพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญที่อ้างกัน