ไม่พบผลการค้นหา
สถานการณ์การติดเชื้อในสหรัฐฯ กำลังแย่ และสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์เฝ้าระวังหนัก ขณะอิตาลี-สเปน ตัวเลขเริ่มปรับดีขึ้น แต่รัฐบาลยังคงไม่ลดมาตรการป้องกันลง

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ worldmeter ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากโรคโควิด-19 สะสมทั่วโลกทะลุ 1.2 ล้านรายแล้ว โดยมียอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นกว่า 69,000 ราย ทั้งนี้ แบ่งเป็นผู้ป่วยที่รักษาตัวหายแล้วราว 262,000 คน 

การประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันจากยอดผู้ป่วยที่ยังรับการรักษาตัวอยู่จำนวนทั้งสิ้น 941,220 ตามข้อมูล ณ วันที่ 4 เม.ย.เวลา 8.00 น.ของประเทศไทย พบว่าแบ่งเป็นอาการปานกลางราวร้อยละ 95 หรือคิดเป็นจำนวน 895,601 ราย ขณะที่ผู้ป่วยที่มีอาหารหนักคิดเป็นร้อยละ 5 หรือ 45,619 ราย

ด้านตัวเลขผู้ป่วยที่รักษาตัวหายแล้วจากยอดที่ปิดไปทั้งหมด 331,641 ราย จะพบว่ามีสัดส่วนการรักษาตัวหายประมาณร้อยละ 79 หรือ 262,217 ราย และมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตทั้งสิ้น 69,424 ราย หรือร้อยละ 21 

  • กราฟจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม
โควิด


  • กราฟจำนวนผู้เสียชีวิตสะสม
โควิด

เมื่อนำข้อมูลดิบไปสร้างกราฟจะยังพบแนวโน้มการหันหัวขึ้นของทั้งยอดผู้ป่วยรายทั้งหมดและจำนวนผู้เสียชีวิต แต่หากไปดูตัวผู้ป่วยใหม่รายวันนับตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.มาจนถึงปัจจุบัน จะพบว่ายอดเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันที่ 3 เม.ย.โดยมียอดผู้ป่วยรายใหม่ถึง 101,566 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่วันที่ 2 เม.ย.ด้วยยอด 5,979 ราย


พอๆ กับเพิร์ลฮาร์เบอร์ และ 9/11

พลเรือโทเจอโรม อดัมส์ ศัลยแพทย์ทั่วไปของสหรัฐฯ กล่าวในรายการ 'ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์' ว่าชาวอเมริกันอาจต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับตอนเพิร์ลฮาร์เบอร์หรือวินาศกรรม 11 กันยายน (9/11) และชี้ว่าสัปดาห์นี้ "มันจะเป็นสัปดาห์ที่ยากที่สุดและเศร้าที่สุดของชีวิตชาวอเมริกัน" 

ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ณ วันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 335,524 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 9,562 ราย โดยจากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นการเสียชีวิตใหม่ภายในวันเดียวของวันอาทิตย์ถึง 1,344 ราย ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่มากที่สุดของสหรัฐฯ 

ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์ตัวเลขจะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการออกมาเตือนจากฝั่งบุคลากรทางการแพทย์สม่ำเสมอ แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ยังออกมากล่าวได้ว่า "เราเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงบ้างแล้ว" ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มว่า "ผมคิดว่าทุกคนรู้ว่ามันจะไปถึงจุดนึง และจุดนั้นจะเป็นจุดที่น่ากลัวในความหมายของการเสียชีวิต แต่มันจะเป็นจุดที่หลายสิ่งหลายอย่างจะเริ่มเปลี่ยนแปลง"

ทรัมป์ ยังย้ำว่า "เราเข้าใกล้จุดนั้นแล้ว และในอีกสัปดาห์ครึ่งหรือสองสัปดาห์ ผมคิดว่ามันจะยากมากจริงๆ"

ก่อนหน้าทรัมป์ให้สัมภาษณ์นั้น ดร.แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NIAID ให้สัมภาษณ์กับช่องซีบีเอสว่า การบอกว่าสหรัฐฯ ควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว "เป็นเรื่องไม่จริง" เพราะ "เรากำลังล้มลุกคลุกคลานกับการจัดการการแพร่ระบาด"


อิตาลี-สเปน เริ่มเห็นการตายลดลง 

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตในอิตาลี ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมามีจำนวนเพียง 525 ราย ซึ่งนับว่าน้อยที่สุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเริ่มมองหาการควบคุมโรคในระยะที่ 2 แล้ว เพื่อรองรับการยกเลิกมาตรการปิดเมืองที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนที่แล้ว

โดย 'ซิลวิโอ บรูซาเฟอร์โร' หัวหน้าสถาบันทางสุขภาพชั้นนำของอิตาลี กล่าวว่า "เส้นกราฟถึงจุดสูงสุดแล้วและเริ่มลดลง" และนี่เป็นผลลัพธ์ที่ทุกคนต้องร่วมกันทำให้ได้วันต่อวัน 

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตต่อวันจะลดลง รวมไปถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ แต่ 'แองเจโล โบเรลลี' หัวหน้าจากฝ่ายการปกป้องพลเรือน ยังออกมาเตือนประชาชน "ห้ามลดการป้องกันลง ให้อยู่บ้าน" ต่อไป

ขณะที่ฝั่งสเปนก็มีตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงเช่นเดียวกัน ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศ พบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมงของสเปน ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 674 ราย ลดลงมากจากตัวเลข 809 รายในวันเสาร์ และ 950 ราย ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา 

'ซัลวาดอร์ อิลลา' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสเปน กล่าวว่า ข้อมูลได้บ่งชี้แล้วว่ามีเคสการติดเชื้อลดลงซึ่งหมายความว่ามาตรการการจำกัดการพบปะกันใช้ได้ผล นอกจากนี้ กระทรวงยังรอบรับการตรวจคัดกรองที่มากขึ้นด้วยการนำเข้าอุปกรณ์ตรวจ 1 ล้านชิ้น ที่จะมาในวันอาทิตย์และวันจันทร์นี้ 

ทั้งนี้ รัฐบาลสเปนยังคงยืนยันว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปสำหรับประเทศในการปลดล็อคการล็อคดาวน์ลงและให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

อ้างอิง; CNN, WP, CNBC, Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;