นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล ว่ารัฐบาลกำลังหลงทาง หลายเรื่องไม่ควรทำกลับทำ แต่ละทิ้งในสิ่งที่ควรทำ ถกเถียงกันเพียงแค่ว่าจะปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็นเวลาใด จะขยับเข้าหรือขยับออก
ทั้งนี้ มากกว่า 50 จังหวัดเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ เอาผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละคนสองคน บางวันเป็น 0 มาขังคนไทย 67 ล้านคน หลบหลังโควิด-19 ปกปิดการบริหารงานที่ล้มเหลว เพียงเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กระชับอำนาจ เป็นรัฐบาลพรรคร่วมมากที่สุด แต่กลับไร้เสถียรภาพมากที่สุด โรงเรียนเปิดไม่ได้ แต่ห้างเปิดได้ สแกนแอปฯ "ไทยชนะ" ประชาชนก็กังวลว่าจะถูกแฮกข้อมูล เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูล การยืด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการคงประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบหนักทางเศรษฐกิจ ยิ่งกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งกว่า 10 เท่า รัฐต้องเผชิญมรสุมอย่างน้อย 3 ลูก คือ โควิด-19 ฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจ และวิกฤตการเมืองทั้งในพรรคและนอกพรรค รัฐต้องสร้างสมดุลย์ระหว่างสุขภาพ เสรีภาพ และเศรษฐกิจ ให้เกิดขึ้นให้ได้ ไม่ใช่เอาทุกปัญหาไปกลบไว้ใต้โควิด-19
"โควิดไม่ได้ควบคุมได้จาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว แต่ควบคุมจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ถ้ารัฐบาลยังคงกระชับและใช้อำนาจอย่างฟุ่มเฟือย ไม่มีที่สิ้นสุด อาจเกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับ ที่รัฐบาลไม่อาจรับมือได้" นายอนุสรณ์ กล่าว