วันที่ 6 พ.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า วันนี้ด้านเศรษฐกิจก็ค่อนข้างสบายใจขึ้นในเรื่องการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ และคาดว่าช่วงปลายปีซึ่งเป็นไตรมาสที่ 4 ต่อเนื่องไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 หากรักษาเสถียรภาพของการท่องเที่ยวได้อย่างนี้ก็จะดี ฉะนั้นจึงขอความร่วมมือภาคเอกชน ประชาชนให้ช่วยสนับสนุนรัฐบาลเพื่อทำให้บ้านเมืองสงบและมีความปลอดภัยทั้งในด้านโควิดด้วย เพราะถ้ามีความขัดแย้ง คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชน ผู้ประกอบการก็ไม่สามารถฟื้นตัวได้

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากโควิด มีการพูดคุยถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดงานการท่องเที่ยว EXPO ที่จะจัดขึ้นที่ภูเก็ตในปี 2571 รวมถึงการถ่ายภาพยนต์จากต่างประเทศ การที่จะให้นักท่องเที่ยงต่างชาติใช้เงินในประเทศไทยให้มากขึ้น และดูแลช่วยเหลือธุรกิจในห่วงโซ่การท่องเที่ยว ซึ่งตนยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ทำให้คนไทยเดือดร้อน และจะใช้เงินทุกโครงการด้วยความระมัดระวังและอุดช่องว่างต่างๆ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า กรณีที่มีข่าวรณรงค์สนับสนุนไม่ให้สมัครโครงการคนละครึ่ง ไม่เป็นความจริง รวมถึงเก็บภาษีคนที่รายได้ไม่ถึง ก็ไม่จริงซึ่งมันจะทำได้อย่างไร

ทั้งนี้เมื่อถามย้ำถึงความชัดเจนโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 นายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ศึกษาได้ให้ไปหาทางดูว่าจะเดินได้ยังไงให้ทั่วถึง ซึ่งทุกครั้งที่ให้ไปก็ให้กว้างให้เต็มไปเลยทุกกลุ่มทุกพวก เราใช้เงินงบประมาณ 4-5 หมื่นล้านทุกครั้ง ซึ่งทุกท่านก็ทราบงบประมาณเราเริ่มจะร่อยหรอ ก็ต้องดูว่าจะทำได้มากแค่ไหนอย่างไร ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่

เมื่อถามว่าจะต้องขอให้ฝ่ายค้านช่วยเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หรือไม่ นายกฯ ระบุว่า หารือตลอดกับฝ่ายวิป ซึ่งอะไรที่ขัดแย้งกันมากๆ ก็ไม่มีความจำเป็น จะขัดแย้งกันทำไม

เมื่อถามว่าช่วงบินไปประชุมอาเซียน - สหรัฐ สัปดาห์หน้าที่สหรัฐอเมริกา เป็นห่วงสถานการณ์อะไรในไทยหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ในประเทศก็เป็นห่วงอย่างเดียว คือเรื่องความขัดแย้งซึ่งเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสร้างความขัดแย้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ทางการเมือง เพราะตอนนี้ต้องเตรียมการชี้แจงเรื่องงบประมาณปี 2566 ที่ต้องเริ่มใช้ในเดือน ต.ค.นี้ ถ้าไม่ผ่านก็เดือดร้อน