‘เกษม ศุภสิทธิ์’ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา และที่ปรึกษากฎหมายกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.เอส.ลอว์เฟิร์ม จำกัด ให้ความเห็นกรณี 8 ปี นายกรัฐมนตรี โดยมองว่าคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมา 2 แนวทาง ดังนี้
แนวทางที่ 1 หากศาล รธน.วินิจฉัยว่า พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งไม่ครบ 8 ปี เนื่องจากตำแหน่งนายกฯตั้งแต่ปี 2557 ไม่มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดีหากวินิจฉัยตามแนวทางที่ 1 จะเกิดประเด็นข้อกฎหมาย เนื่องจากนายกรัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม รธน. 2557 อาศัยอำนาจใดในการบริหารประเทศ เพราะเมื่อนายกฯได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งอำนาจและหน้าที่ของนายกฯเกิดขึ้นทันทีตามกฎหมาย
หากศาลวินิจฉัยดังนี้ ตำแหน่งและฐานะนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงการใช้อำนาจตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำสนธิสัญญา การโยกย้ายข้าราชการ นับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ย่อมไม่มีผลตามกฎหมาย
แนวทางที่ 2 หากศาล รธน.วินิจฉัยว่า ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี โดยนับตั้งแต่ปี 2557 จะเกิดผลตามข้อกฎหมายคือ การใช้อำนาจของนายกฯนั้น มีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดินปี 34 รองรับการใช้อำนาจ
ทั้งนี้ ‘เกษม’ ยืนยันว่าไม่มีเจตจำนงชี้นำศาล รธน. แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจะวินิจฉัย จึงเป็นความเห็นส่วนตัวและพร้อมน้อมรับคำวินิจฉัยศาลทุกประการ