วันที่ 17 ส.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรครวมไทยสร้างชาติต้องการให้พรรคเพื่อไทยแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีให้เสร็จก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีว่า การจัดตั้งรัฐบาลก็คุยอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะพรรคที่อยากจะร่วมมือกัน ซึ่งได้คุยกันต่อเนื่องแต่ต้องใช้เวลา ส่วนวันที่ 22 ส.ค.นี้จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อเห็นชอบผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี โดย มีเสียงของนายกิตติศักดิ์ รัตนะวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีความเหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯมากนั้น อย่าไปคิดอะไรที่มันข้ามขั้นตอน ยังเชื่อว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยไม่มีปัญหา ส่วนการพูดคุยกับรวมไทยสร้างชาติก็ยังคุยเรื่อยๆ ไม่ได้บอกว่าตกผลึก และเชื่อว่าการคุยทิศทางน่าจะดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังหวังว่าทางพรรครวมไทยสร้างชาติจะโหวตสนับสนุน เศรษฐาอยู่หรือไม่ ภูมิธรม ระบุว่า ตนเชื่อว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอสมเหตุสมผลและมีความเหมาะสมในการรับหน้าที่นายกฯ ความสามารถของนายเศรษฐาน่าจะแก้ไขวิกฤตของประเทศได้ ส่วนพรรคร่วมที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้คุยต่อเนื่องไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนที่ลือกันนั้น ของจริงอยู่ที่การคุยกันจริงๆ
ส่วนที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะนัดพูดคุยอย่างเป็นทางการ ภูมิธรรม ระบุว่า ตนไม่ทราบว่าใครคือผู้มีอำนาจตรง เพราะการคุยกันเป็นเรื่องแต่ละพรรคไปสื่อสาร ซึ่งวาระประชาชนและประเทศเป็นเรื่องสำคัญที่เราได้คุยกันตลอด
เมื่อถามว่า แต่การคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจทำให้จับมือกับพรรคเพื่อไทยได้ยากขึ้น ภูมิธรรม กล่าวว่า ตนว่าไม่น่าไปฟังการคาดการณ์ควรรอความเป็นจริงมากกว่า ส่วนการพูดคุยเรื่องการแบ่งกระทรวงกันนั้น ตนยืนยันว่า ยังไม่ได้คุยลงลึกในกระทรวงต่างๆ แต่ที่คุยคือพร้อมร่วมกันจับมือพร้อมจะแก้วิกฤตร่วมกันหรือไม่ โดยเฉพาะวิกฤตปัญหาประชาชนพยายามสลายความขัดแย้ง นำปัญหามาเป็นที่ตั้งทำงานร่วมกันให้ทุกอย่างคลี่คลาย
ถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลอยากให้แบ่งกระทรวงก่อนลงมตินายกรัฐมนตรี วันที่ 22 ส.ค.นี้ ภูมิธรรม กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์คุยกัน เราได้เปิดใจคุยกันตรงๆมาตลอด ไม่น่ากังวลอะไรตามที่สื่อมวลชนกังวล ส่วนที่ สว.ห่วงคุณสมบัติของเศรษฐา ก็ต้องทำความเข้าใจก่อนถึงวันที่จะลงมติ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็พร้อมอยู่แล้ว ไม่น่ากังวล
ถามว่า การโหวตของที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 ส.ค.นี้พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงตามที่ตั้งเป้าหรือไม่ ภูมิธรรม ยังคงเชื่อมั่นในดุลพินิจของ สส.และ สว. จะเห็นความตั้งใจของพรรคเพื่อไทย คิดว่าจะให้ความไว้วางใจ และพรรคเพื่อไทยได้ประกาศจุดยืนพร้อมจะมาแก้ปัญหาของประเทศ คนของพรรคเพื่อไทยมีศักยภาพความสามารถ ตนเชื่อว่าทุุุกอย่างเป็นไปในทางบวก ดังนั้น การคุยกันคือในกรอบใหญ่ๆ ว่าวิกฤตเหล่านี้เห็นร่วมกันหรือไม่
"เรื่องอะไรที่ไม่เข้าใจกันก็ควรคลี่คลาย เพราะวิกฤตความขัดแย้งอยู่มานานกว่า 20 ปีแล้ว ถ้าเราทำใจให้กว้าง การแก้ปัญหาวิกฤตจะแก้ไขได้ แต่ถ้าติดขัดความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ จะทำให้การแก้ปัญหาลำบาก ถ้าวันนี้ลำบากใจ ผมคิดว่าทุุกอย่างจะคลี่คลาย" ภูมิธรรมกล่าว
ถามถึงหากวันที่ 22 ส.ค.นี้เสียงโหวตในที่ประชุมรัฐสภาไม่ถึง 375 เสียงจะมีแผนยังไงต่อไป ภูมิธรรมกล่าวว่าไม่มีแผน คิดว่าผ่าน 375 เสียง ส่วนการแถลงข่าวของพรรครวมไทยสร้างชาติในเย็นวันเดียวกันนี้ ตนไม่อยากคาดเดาสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เท่าที่ประสานพูดคุยกันมา ก็ไม่ค่อยรู้สึกเป็นปัญหา ตนคิดว่าคุยกันเป็นทางการได้เริ่มต้นแล้ว แต่การพูดคุยต้องทำความเข้าใจที่ผ่านมาไม่มีปัญหา
ส่วนกรณีหากไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมลงมติสนับสนุนนั้น ถ้ามีการประกาศมีกี่พรรคก็ได้เท่านั้น โดยก่อนถึงวันลงมติจะต้องมีการประกาศให้ชัดเจน โดยจะมีการแสดงความชัดเจนโดยไม่พ้นจากวันที่ 21 ส.ค.นี้ โดยเชื่อว่าทุกพรรคจะต้องแสดงจุดยืนเพื่อให้สื่อมวลชนสบายใจ
ส่วนกรณีพรรรวมไทยสร้างชาติ กังวลถึงสุพัฒพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ยังไม่ลงตัวในตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ภูมิธรรม ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะแถลง ก็ต้องเคารพการแถลงของพรรครวมไทยสร้างชาติ กระบวนการคุยไปได้เรื่อยๆ และก็จบไปแล้วบ้าง ตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงกรณี ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทยขู่จะโจมตีเศรษฐาอีกนั้น ภูมิธรรมระบุว่า ไม่ได้กังวลก็ทราบว่า ชูวิทย์เป็นนักการตตลาด ใครถูกกล่าวหาต้องทำความเข้าใจ ถ้าถูกละเมิดว่าไปตามกฎหมาย
ภูมิธรรม กล่าวถึงการกลับมาประเทศไทยของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ต้องถามทางญาติและครอบครัวของ ดร.ทักษิณ