วันที่ 9 ส.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยร่วมกันแถลงข่าว นำโดย พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส.อุบลราชธานี และ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขาธิการ และ กรรมการคณะยุทธศาสตร์และการเมือง
พิชัย กล่าวในหัวข้อ 'สถานการณ์โลกผันผวน ประเทศไทยต้องอยู่ตรงไหน' ว่าด้วยผลกระทบของสถานการณ์ความขัดแย้งแปรปรวนในโลกซึ่งส่งผลต่อสภาวะการณ์ในไทย โดยเฉพาะหลังจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร สหรัฐอเมริกา เดินทางไปเยือนไต้หวัน เป็นเหตุให้จีนแสดงออกด้วยการซ้อมรบ สร้างความกังวลในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ซ้ำเติมความวุ่นวายของรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงเมียนมา และตะวันออกกลาง หากมองย้อนอดีตจะเห็นว่า ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ก็มีชวนเหตุจากสถานการณ์ลักษณะนี้ ซึ่งตนก็หวังจะหาทางหลีกเลี่ยงได้
สำหรับประเทศไทยเองที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมจะรับมือหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของพลังงานแก๊สธรรมชาติ ที่มีความขาดแคลน เนื่องจากปัญหาระหว่างประเทศ จึงไม่สามารถนำพลังงานจากแท่นขุดเจาะในอ่าวไทยมาใช้ได้ ตนในฐานะพรรคเพื่อไทย จึงขอเสนอแนวทางแก้ไข คือ ต้องเร่งยุติข้อพิพาทในอ่าวไทย เพื่อหาทางนำแก๊สธรรมชาติมาใช้ หาทางเจรจาลดค่าความพร้อมซึ่งเป็นภาระของโรงไฟฟ้า เร่งคลี่คลายปมปัญหาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา และพิจารณาวางแผนจัดการปัญหาเชื้อเพลิงให้เพียงพอ
"ในสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลง ผู้นำต้องฉลาด รอบรู้ ปรับตัวให้ทัน ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอะไรก็จะอยู่ไป 8 ปี มันมากเกินแล้ว ผมขอยืนยันว่ามีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญท่านหนึ่ง มาบอกผมเมื่อ 2 ปีกว่าแล้ว ว่าเป็นความตั้งใจของผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่จะให้นายกรัฐมนตรีอยู่ไม่เกิน 8 ปี รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย คนเบื่อท่านแล้ว อยากให้ท่านคิดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ท่านบริหารงาน เศรษฐกิจได้ดี แต่คนเบื่อท่านแล้ว 8 ปี ท่านก็ยอมออก พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะพิจารณา เพราะท่านทำเละกว่า พล.อ.เปรม เยอะ"
ด้าน เอกชัย กล่าวในประเด็น 'โลกขาดแคลนอาหาร แต่เกษตรกรไทยกลับมีปัญหาและจนลง' โดยระบุว่า เกษตรกรไทยมีศักยภาพสูง ผลผลิตมีคุณภาพ ตัวเลขการส่งออกเพิ่มสูงขึ้น เป็นที่ต้องการของตลาดโลก แต่ปัญหาคือรายได้ของเกษตรกรต่ำ มีหนี้สิน ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ในสถาวะที่โลกขาดแคลนอาหาร รัฐบาลบริหารอย่างไรให้ราคาลำไยตกต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี มังคุดราคาตกต่ำ ทั้งที่ก่อนหน้าเคยราคาดี ซ้ำเติมด้วยปัจจัยการผลิตราคาสูง
"ไม่ใช่ความผิดของเกษตรกร ที่สร้างผลผลิตอย่างปราณีต มีคุณภาพ แต่เป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่สามารถบริหารจัดการให้ผลผลิตของไทยขายในระดับโลกได้ด้วยราคาที่เป็นธรรม"
เอกชัย ยังขอเตือนรัฐบาลว่า ควรเร่งนำโอกาสมาสู่เกษตรกร อีกไม่นานข้าวหอมมะลิในอีสานกำลังจะส่งออก แต่มีปัญหาเพราะราคาข้าวถูกกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซ้ำราคาปุ๋ยยังแพง ในสภาวะที่คาดการณ์ว่าโลกกำลังจะขาดแคลนข้าว ราคาข้าวในตลาดโลกไม่น่ามีปัญหา แต่ชาวนาไทยจะขายข้าวได้คุ้มราคาปุ๋ยหรือไม่ รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้โอกาสกลายเป็นวิกฤตสำหรับเกษตรกร เพราะทุกข์ของชาวนา คือทุกข์ของแผ่นดิน ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ ก็ยิ่งสืบทอดความทุกข์ให้ยาวนานไป ควรพอได้แล้ว ไม่ต้องมีปีที่ 8 หรือปีที่ 9 อีก
ขณะที่ อนุสรณ์ ระบุถึงประเด็น 'ประยุทธ์ลงพื้นที่ ผลงานไม่มี แต่พูดมั่ว' เวลานี้ปี่กลองการเมืองเร่งเร้า สภาพเหมือนไม่มีรัฐบาล เพราะแต่ละพรรคการเมืองล้วนลงพื้นที่รับฟังปัญหา สร้างความเชื่อมั่นให้ประชนชน พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ไป ร่วมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรียกได้ว่า 'สามัคคีคือพัง' เพราะไปแยกกันเดิน แยกกันตี แยกกันขึ้นเวทีไปแก้ตัวกับประชาชน กลบเกลื่อนความผิดตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา
นิด้าโพลสะท้อนชัดประชาชน 64.25 เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ควรประกาศอยู่ในตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ไม่เกิน 24 ส.ค.นี้ ขณะที่ 55.18% เชื่อหลังเลือกตั้งสมัยหน้า 3 ป. จะไม่มีบทบาทจัดตั้งรัฐบาล จะให้ประชาชนไว้วางใจ 3 ป.ได้อย่างไร ในเมื่ออยู่มา 8 ปี 3 ป.ยังไม่ไว้วางใจกันเองเลย พล.อ.ประยุทธ์ บอกให้ประชาชนอดทน เพื่อให้ตนเองได้ยืดเวลาบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้นานที่สุด ทำประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม ประชาชนขอขึ้นค่าแรง แต่รับบาลกลับขึ้นค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ทำต้นทุนชีวิตแพง แต่ค่าแรงถูก คุณภาพชีวิตถดถอย 8 ปี พล.อ.เปรมเคยบอก ผมพอแล้ว แต่ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ สะกดคำว่าพอไม่เป็น แถมยังดิ้น หาทางไปต่อ
“ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งนายกฯ คนขึ้นมารักษาการคือ พล.อ.ประวิตร จะไปเอาความเชื่อมั่นมาจากไหน 8 ปียังวิกฤตหนักขนาดนี้ อย่าดิ้นต่อให้เป็นภาระลูกหลานเลย” อนุสรณ์ กล่าว