ไม่พบผลการค้นหา
'ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย' ชี้ 'ประยุทธ์' ยิ่งอยู่นาน ประเทศยิ่งเสื่อมถอย ได้แต่กินบุญเก่า ถ้าไม่ยอมออกอาจหมดบุญ จะยอมให้ล่มสลายทุกด้านเพื่ออยู่ต่อหรือ

วันที่ 16 ส.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยร่วมกันแถลงข่าว นำโดย พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ พร้อมด้วย กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการพรรค จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก และ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย

พิชัย กล่าวว่า ในประเด็นครบ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาในการเป็นนายกรัฐมนตรี ครบตามกำหนดที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้และเป็นเจตนาของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ตามที่มีการบันทึกไว้แล้วนั้น ตนอยากขอเรียกร้องให้ มีชัย ฤชุพันธ์ุ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ออกมายืนยันเจตนาของผู้ร่าง อย่าปล่อยให้มีการตีความมั่ว สร้างความสับสนให้ประชาชน 

794416.jpg

ทั้งนี้ เพราะเมื่อกว่า 2 ปีก่อนที่ผ่านมา หนึ่งในคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ คือ เธียรชัย ณ นคร ก็ได้ยืนยันกับตนในเรื่องนี้เอง และยังแนะนำให้ตนไปดูข้อกฏหมายและภาคผนวกที่ระบุชัดเจนว่านับตั้งแต่พลเอกประยุทธ์เป็นนายกตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งต้องครบ 8 ปีแล้วในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ หากจำกันได้ ขนาดพลเอกประยุทธ์เป็นนายกหลังการเลือกตั้งแล้วยังไม่ยอมรายงานทรัพย์สินใหม่โดยอ้างว่าเป็นนายกฯ ต่อกันมา โดยเรื่องนี้จะเป็นโอกาสให้นายมีชัยได้ถ่ายบาปได้บางส่วนจากการเขียนรัฐธรรมนูญที่มั่วและสร้างความวุ่นวายอย่างมาก 

ปัญหาต่างๆที่จะเข้ามา ประกอบกับความไม่รู้เรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จะยิ่งกว่าทำให้ปัญหามากขึ้น ล่าสุดผลการประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็แทบจะไม่มีอะไรเลย ซึ่งหากพลเอกจะย้งดิ้อรั้นจะอยู่ต่อประเทศไทยจะประสบปัญหา 8 เรื่องดังนี้ 

1. เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำต่อไปอีก เพราะประชาชนจะยิ่งขาดความเขื่อมั่นและขาดความมั่นใจ อีกทั้งจะได้ยินแต่เรื่องโกหกและการเล่านิทานหลอกประชาชน ที่อ้างว่าเศรษฐกิจไปได้ดี ทั้งที่คนอดอยากกันมาก 

2. หนี้สินจะเพิ่มขึ้นหมด หนี้สาธารณะจะยิ่งพุ่งสูงเพราะพลเอกประยุทธ์หารายได้ไม่เป็น เป็นแต่กู้มาแจก หนี้ครัวเรือนไม่มีแนวโน้มจะลดลงได้เลย เพราะไม่มีแนวทางในการเพิ่มรายได้ หนี้ภาคธุรกิจ จะยิ่งพอกพูน และ หนี้เสียจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ยิ่งภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก รัฐบาลแถลงว่าดอกเบี้ยขึ้นจะไม่กระทบนั้นน่าจะเข้าใจผิดหรือไม่ก็ตั้งใจบิดเบือนความจริง 

3. ข้าวของแพงและเงินเฟ้อ จะแก้ไขไม่ได้ ประชาชนจะลำบากกันมาก รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย เพราะพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เพิ่มรายได้ประชาชน

4. ราคาน้ำมัน ราคาไฟฟ้า และ ราคาก๊าซ จะยิ่งแพงขึ้น เพราะพลเอกประยุทธ์ไม่เข้าใจโครงสร้างราคา และ ไม่ปรับเปลี่ยนแก้ไขเพราะเกรงใจนายทุนพลังงานและธุรกิจพลังงานใหญ่ 

5. การลงทุนจะยิ่งหดหาย เพราะนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศจะไม่มั่นใจ นักลงทุนต่างประเทศจะยิ่งหายไปและไม่กลับมาอีก 

6. ความสามารถแข่งขันของไทยจะยิ่งลดลง เพราะผู้นำขาดหลักคิด และไม่ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย ขาดการพัฒนาทางด้านดิจิตอล และจะตามกระแสโลกไม่ทัน 

7. การใช้งบประมาณไม่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลใช้เงินเยอะ กู้เงินมาก แต่เศรษฐกิจไทยไม่ขยายตัว มีการใข้เงินไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กันมาก ทั้งที่ประชาชนกำลังอดอยาก 

8. จะเกิดทุจริตคอรัปชั่นชั่นกันมาก 5 ปีที่ผ่านมาดัชนีความโปร่งใสลดลงมาตลอด 

นี่เป็น 8 ปัญหาหลัก ซึ่งจะมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกมาก ดังนั้น พลเอกประยุทธ์จะต้องคิดให้ดีว่าจะดันทุรังต่อไปแล้วจะมีจุดจบอย่างไร จะจบแบบจอมพลถนอม กิตติขจร หรือ แบบ พลเอกเปรม เพราะหากยังดันทุรัง เท่าที่ดูไม่น่าจะจบสวยเลย และจะเกิดความวุ่นวาย และจะมีการประท้วงในวงกว้าง ยิ่งทำให้ประเทศมีปัญหามากขึ้น 


เปลี่ยนผู้นำเพื่อรถไฟความเร็วสูงเป็นจริง

กฤษฎา กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยมีมูลค่าการค้าชายแดนกว่า 1 ล้านๆ บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่รัฐบาลไม่สามารถมองข้ามได้เลย หากต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ วันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจก็คือ การเข้าใจว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคอยู่ที่ไหน และบริบทของประเทศคืออะไร สำหรับการค้าชายแดนนั้น ตัวเลขการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 15% ทั้งนำเข้าและส่งออก แต่ตัวเลขที่ต้องระวังและถ้ายังบริหารงานแบบไม่เข้าใจบริบทของตัวเลขพวกนี้ อนาคต เราอาจจะเจอตัวเลขติดลบแม้แต่การค้าชายแดนก็เป็นได้ ตัวเลขที่น่าตกใจ และควรจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือ การค้าผ่านแดน การส่งออกสินค้าผ่านแดนของเราในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ลดลง 20% การนำเข้าตกลง 12%  

794412.jpg

จังหวัดหนองคายเอง เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ที่จะเชื่อมต่อกับลาว ไปที่จีนและอีกหลายๆ ประเทศ ตัวผมเองเป็น ส.ส. ในพื้นที่ ผมได้คอยติดตามการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นที่มาโดยตลอด วันนี้ หลายอย่างที่ควรจะเกิด ก็ยังไม่เกิด เขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็ยังไม่ได้มีโครงสร้างพื้นฐานอะไรเลยเข้ามารองรับ สะพานแห่งที่สองที่ควรจะเกิดนานแล้วก็ยังไม่มี กฎระเบียบการให้สิทธิพิเศษแก่นักลงทุนก็ด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวหรือเวียดนามอยู่พอสมควร มิหนำซ้ำผมได้รับการร้องเรียนจากภาคเอกชน 

วันนี้ หนองคาย เป็นประตูบานแรกที่นักท่องเที่ยว นักลงทุน จะเปิดเข้ามาเจอ และหากท่านยังบริหารงานแบบไม่พร้อมอย่างนี้ต่อไป โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ด้านสาธารณะสุข หรือแม้แต่ด้านเทคโนโลยี ผมเกรงว่า เราก็อาจจะตกรถไฟขบวนนี้จริงๆ ก็ได้


ท่องเที่ยวไทยกินบุญเก่า ถ้าไม่เปลี่ยนผู้นำอาจหมดบุญ

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากการที่พรรคเพื่อไทยได้ชี้เป้าบาดแผลที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำไว้กับระบบเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะแผลการท่องเที่ยวทั้ง เช่น การว่างงานในระยะยาวอาจปรับตัวสูงสุด รายได้จากภาคการท่องเที่ยวในอดีตหายไปมากกว่า 3.5 ล้านล้านบาท เป็นต้น 

794408.jpg

โดยในวันนี้ชี้พรรคเพื่อไทยพร้อมเป้าเตรียมผ่าตัดครั้งใหญ่ให้กับรัฐบาลนี้ กับแผลเน่าที่รัฐบาลได้ทำไว้กับการท่องเที่ยวไทย หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการปิดประเทศและยกเลิก Thailand Pass ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะมาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย สหราชอาณาจักร ลาว และสหรัฐอเมริกา และมีแผนเตรียมกระตุ้นและขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวอย่าเต็มกำลังสูบ แต่แผนดังกล่าวจะใช้ได้ผลหรือไม่ หากยังมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่


'ประยุทธ์' ยิ่งอยู่นาน ยิ่งเสื่อมถอย

จุฑาพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ สอบตกการบริหารประเทศ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนเดือดร้อนหนักมาก ข้าวของแพง รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้แต่ละวัน ต้องกู้หนี้ยืมสินมาประทังชีวิต ธุรกิจก็ซบเซาย่ำแย่ ผู้คนจับจ่ายซื้อของน้อยลง ด้วยปัญหาต่างๆที่รุมเร้า ทำให้ไม่รู้จะหารายได้จากที่ไหนมาประคองชีวิตให้เพียงพอ เดือดร้อนจนหลายคนคิดสั้น ฆ่าตัวตายจากภาระหนี้สิ้นล้นตัว หลายคนมองแทบไม่เห็นอนาคต โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ที่ตกงานหลายแสนคน จากสาเหตุที่ธุรกิจปิดตัวลงด้วยพิษโควิด

794438.jpg

พลเอกประยุทธ์ คือ ภัยคุกคามร้ายแรงทางเศรษฐกิจ เพราะล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา เน้นแจกเงิน มากกว่าการสร้างงาน แจกจนหนี้ประเทศพุ่งสูงมาก ทิ้งให้คนรุ่นหลังต้องแบกภาระหนี้สิ้นและคงต้องมาชดใช้หนี้ คนรุ่นใหม่ที่ควรมีความฝัน ความหวัง กลับต้องมาพบเจอแต่ความยากลำบากในยุคการบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ ถูกปิดกั้นเสรีภาพทางความคิด ถูกจับกุม เมื่อเห็นต่าง ปกครองด้วยกระบอกปืน

จนกระทั่งกลุ่มคนเหล่านี้เกิดความท้อแท้ หมดหวัง และชวนกันอยากย้ายประเทศ แม้ว่าทุกคนคงไม่สามารถย้ายประเทศหนีไปได้หมด แต่หากกลุ่มคนมีความรู้ความสามารถเหล่านั้นไปศึกษาต่อ หรือไปทำงานประเทศอื่นถาวร ก็ถือเป็นความสูญเสียของประเทศอันใหญ่หลวงที่ต้องเสียทรัพยากรที่มีค่าทางเศรษฐกิจไป สิ่งที่พลเอกประยุทธ์จะช่วยประเทศไทยได้ดีที่สุด คือ การหลีกทางให้คนที่มีความสามารถ และมีความเหมาะสมกว่าเข้ามาบริหารประเทศแทน


จะยอมล่มทุกอย่างเพื่ออยู่ต่อ

อนุสรณ์ กล่าวถึงกรณี ฝ่ายต่างๆออกมายื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีรวมกันเกิน 8 ปี ได้หรือไม่ ว่า 8 ปีที่แล้วประเทศชาติและประชาชนอยู่ในภาวะถูกบีบบังคับจากการสร้างสถานการณ์ความขัดแย้ง นำไปสู่สภาวะสุญญากาศ เพื่อปูทางไปสู่การทำปฏิวัติรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ หลักนิติรัฐ นิติธรรม ถูกทำลาย ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย ประเทศลงทุนมากขนาดนี้

อนุสรณ์.jpg

เพียงเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกรัฐมนตรีหลังจากรัฐประหาร ในวันที่ 24 ส.ค. 2557 นับจากวันนั้นจนถึงวันที่ 24 ส.ค. 2565 เอาใครมานับก็จะรู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 วรรค 4 บัญญัติว่า นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ 

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง รัฐธรรมนูญ มาตรา 264 บัญญัติว่า ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้

นั่นคือ การเป็นนายกรัฐมนตรีของประยุทธ์ตั้งแต่ปี 2557 ก็ถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงต้องนับ 1 ตั้งแต่ปี 2557 ไม่ต้องให้ใครมานับให้เป็นภาระ ไม่ต้องหาใครมาตีความ พล.อ.ประยุทธ์ นับเองได้ว่าเป็นนายกฯมา 8 ปีหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ จะยืนมึนงง ถ่วงเวลารอให้ประเทศต้องลงทุนไปเรื่อยๆ เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปต่อไม่ได้ ประชาชนจะไม่ยอมเห็นประเทศล้มเหลวคามือพล.อ.ประยุทธ์ เพียงเพื่อให้กระบวนการสืบทอดอำนาจดำรงอยู่ต่อไป

“ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ถ้าคิดจะนำโครงการคนละครึ่ง มาแบ่งกันเป็นนายกฯอีกคนละ 2 ปี ในหมู่พี่น้อง 3 ป. จะได้สมประโยชน์ในเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตามโครงการคนละครึ่ง ประชาชนไม่ยอมแน่นอน” นายอนุสรณ์ กล่าว