วันที่ 12 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ถูกพุ่งเป้าอันดับหนึ่ง ของการอภิปรายทั่วไปตาม ม.153 ของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในประเด็นของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โดย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การอภิปรายดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่เป็นการช่วยรัฐบาล ในการสอบถามในประเด็นสำคัญ ที่ทำงานมา 6 เดือน มุมมองส่วนตัวเห็นว่า น่าเป็นประโยชน์ และเป็นโอกาสของรัฐมนตรี เพราะบางเรื่องไม่สามารถออกไปพูดได้ก็จะมีกรอบป้องกันให้รัฐมนตรีได้ชี้แจงในสภาฯ ยืนยันว่า ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด และตั้งใจที่จะไปฟัง 

ส่วนที่เป้าหลักพุ่งมาที่รัฐมนตรียุติธรรมโดยเฉพาะประเด็นของ ทักษิณ นั้น ยืนยันว่า เราก็เก็งคำถามในประเด็นนั้นได้ ในเรื่องกระบวนการยุติธรรมมีมากมาย ซึ่งรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้ประกาศที่จะฟื้นฟูหลักนิติธรรม ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นที่ยอมรับ ใช้กฎหมายให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ และรัฐธรรมนูญ ต้องมีความศักดิ์สิทธิ์ในฐานะที่เป็นกฎหมายสูงสุด ซึ่งต้องพุ่งเป้าเรื่องความผาสุขของประชาชน คิดว่าไม่มีปัญหา และในรัฐธรรมนูญ กำหนดหน้าที่ของรัฐมนตรี ต้องสร้างความปรองดองให้กับคนในประเทศด้วย 

สำหรับการถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง 2 มาตรฐาน ยืนยันว่าคงต้องชี้แจง และถือเป็นโอกาสดีที่ได้ชี้แจง และในส่วนของคนที่เป็นรัฐมนตรีจะต้องมีมาตรฐานเดียว ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า รัฐ ต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งต้องดูไปถึงเจตนารมณ์ และต้องดูหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติ 

เมื่อถามว่า จะใช้เวทีนี้เคลียร์ในทุกประเด็นที่สังคมสงสัยหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อาจจะไม่ใช่เป็นการเคลียร์ เพราะบางอย่างอาจจะมีข้อมูลที่ดี ในการเรียนรู้ ซึ่งมิติ ของการอภิปราย สว. ไม่ใช่มิติทางการเมือง แต่เป็นมิติของการทำงานร่วมกันในการตรวจสอบทำให้การบริหารประเทศ อยู่ภายใต้ธรรมาภิบาล 

ส่วนกรณีที่ ทักษิณ จะเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอาจมีมวลชนเสื้อแดงมารอรับนั้น อยู่ในกรอบที่สามารถทำได้หรือไม่ว่า อธิบดีกรมคุมประพฤติ รายงานมาว่า ระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค. นี้ ทักษิณ ขออนุญาตเดินทางไปเพื่อพบแพทย์ทางเลือก และเยี่ยมญาติไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่ห้ามออกนอกประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงอย่างเป็นทางการของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นเรื่องของกรมคุมประพฤติระดับเขต 

ส่วนกรณีของ ทักษิณ ไม่ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองใช่หรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ไม่ได้มองในประเด็นนั้น เนื่องจากการเดินทางจะมีพยาบาลไปด้วย เพื่อไปพบแพทย์ทางเลือก 

ส่วนความคืบหน้าระเบียบอภัยโทษ และล้างมลทิน ในปีมหามงคล พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณา แต่กรมราชทัณฑ์ จะมีกรอบอยู่แล้วว่าหยิบเรื่องเก่าๆ มาดู ซึ่งเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี หากคิดว่า จะมีเมื่อไหร่ กรมราชทัณฑ์ก็ต้องทำให้ทัน แต่เรื่องไม่ได้มายังตัวรัฐมนตรี