อย่างไรก็ดี โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับเนทันยาฮู และได้แสดงความชัดเจนว่า อิสราเอลต้อง “ดำเนินการภายใต้กฎแห่งสงคราม” ไบเดนยังกล่าวอีกว่า เขาเข้าใจถึงความโกรธและความคับข้องใจของชาวอิสราเอล แต่สหรัฐฯ เรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามหลักการของอนุสัญญาเจนีวา นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวเตือนอิหร่าน ซึ่งแสดงความยินดีกับการโจมตีของกลุ่มฮามาสด้วยว่า ให้ "ระวัง"
ปัจจุบันนี้ มีการพบยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลสูงถึง 1,200 ราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,100 คนจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซา
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (11 ต.ค.) เนทันยาฮูและแกนต์ซตกลงที่จะยุติการแข่งขันทางการเมืองอันขมขื่น ที่ลุกลามจนกลายเป็นการประท้วงอย่างเป็นวงกว้างในอิสราเอล โดยแกนต์ซกล่าวกับพลเมืองอิสราเอลว่า รัฐบาลฉุกเฉินที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ "เป็นน้ำหนึ่งในเดียวกัน" และพร้อมที่จะ "กวาดล้างสิ่งที่เรียกว่าฮามาสออกจากผืนโลกไป"
ทั้งนี้ นอกจากเนทันยาฮูและแกนต์ซ ซึ่งเป็นผู้นำพรรคเอกภาพแห่งชาติ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอลแล้วนั้น คณะรัฐมนตรีชั่วคราวชุดใหม่ หรือคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล ยังรวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบันอย่าง ยูอาฟ กัลลันต์ ที่เป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีด้วย
ในอีกด้านหนึ่ง ยาอีร์ ลาปิด ผู้นำฝ่ายค้านหลักของอิสราเอล ไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรในการตั้งรัฐบาลฉุกเฉินนี้ อย่างไรก็ดี เนทันยาฮูและแกนต์ซระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า จะมีการสงวนที่นั่งแก่ลาปิดเอาไว้ในคณะรัฐมนตรีสงคราม “ในช่วงสงคราม จะไม่มีการส่งเสริมร่างกฎหมายหรือการตัดสินใจของรัฐบาลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำสงคราม” แถลงการณ์ระบุ “การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งหมด จะถูกขยายออกไปโดยอัตโนมัติในช่วงสงคราม”
รัฐบาลฉุกเฉินของอิสราเอลชุดนี้ จะให้ความเห็นพ้องระดับชาติในมิติที่กว้างมากขึ้น เพื่อการปฏิบัติการทางทหารตอบโต้กลุ่มฮามาส นอกจากนี้ รัฐบาลฉุกเฉินชุดนี้ยังประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ 2 ราย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ทางทหาร ที่จะเข้ามาควบคุมการทำสงคราม ได้แก่ แกนต์ซ และ กาดี ไอเซนค็อต ซึ่งเข้าร่วมรัฐบาลฉุกเฉินในฐานะผู้สังเกตการณ์ โดยทั้งสองเคยเป็นอดีตเสนาธิการทหารอิสราเอลมาก่อนหน้านี้
การประกาศตั้งคณะรัฐมนตรีสงครามชุดใหม่ เกิดขึ้นภายหลังการโจมตีอย่างดุเดือดโดยกลุ่มติดอาวุธฮามาสจากฉนวนกาซา ที่เข้าโจมตีอิสราเอลทางตอนใต้ โดยปัจจุบันนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,200 รายในอิสราเอล นับตั้งแต่การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) ยังมีรายงานด้วยว่า กลุ่มฮามาสได้จับคนเป็นตัวประกันมากถึง 150 คน ซึ่งรวมถึงผู้สูงอายุและเด็ก
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 ต.ค.) กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ทหารหลายพันนายเตรียมพร้อมใกล้ชายแดนฉนวนกาซา สำหรับการโจมตีทางบกที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ นอกจากการโจมตีโดยกลุ่มฮามาสแล้ว อิสราเอลยังได้ยิงสวนปะทะกับกลุ่มติดอาวุธฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอน และกองกำลังในซีเรียด้วย นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กัลลันต์ได้ประกาศการตอบโต้ด้วยการปิดล้อมดินแดนปาเลสไตน์ ตามมาด้วยการตัดการส่งพลังงานไฟฟ้า น้ำ และอาหารทั้งหมดเข้าไปยังฉนวนกาซา ยิ่งไปกว่านั้น ฉนวนกาซามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 รายจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
ในการประกาศจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพอิสราเอลวาระฉุกเฉินนี้ เนทันยาฮูและแกนต์ซจะทำงานร่วมกัน แม้ก่อนหน้านี้จะมีการประท้วงจากฝ่ายค้านของอิสราเอลกว่าหลายเดือน ต่อความพยายามของ เนทันยาฮู และรัฐบาลของเขา ในการผลักดันการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอันเป็นที่ถกเถียง
ผู้ประท้วงในช่วงก่อนหน้านี้ที่อิสราเอล ได้รับการสนับสนุนจากคู่แข่งทางการเมืองของเนทันยาฮู เช่นเดียวกับอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยงานด้านการทหาร หน่วยข่าวกรอง และความมั่นคงของอิสราเอล อดีตหัวหน้าผู้พิพากษา ตลอดจนบุคคลสำคัญทางกฎหมายและผู้นำทางธุรกิจ และบุคคลอื่นๆ อีกมากมาย
ท่ามกลางสงครามที่กำลังดำเนินไป ทหารกองหนุนหลายร้อยคนของอิสราเอล รวมถึงนักบินกองทัพอากาศซึ่งมีความสำคัญต่อการป้องกันของอิสราเอล ขู่ว่าพวกเขาจะปฏิเสธที่จะเข้ารายงานตัวต่อทางการอิสราเอล ส่งผลให้เกิดคำเตือนที่ว่า การต่อต้านการเรียกกำลังพลสำรองในอิสราเอล อาจส่งผลกระทบให้ความสามารถทางทหารของอิสราเอลลดลง
เมื่อเดือนที่แล้ว ศาลฎีกาของอิสราเอลได้ประชุมกัน เพื่อฟังคำร้องคัดค้านการแก้ไขกฎหมายของรัฐบาลเนทันยาฮู ซึ่งจะมีการจำกัดอำนาจของศาลลง ซึ่งอาจส่งผลให้ฝ่ายบริหารของอิสราเอล มีอำนาจที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ที่มา: