ไม่พบผลการค้นหา
'กัณวีร์' ขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทยให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผู้หนีภัยการสู้รบชาวกะเหรี่ยงจากเมียนมา ล่าสุดที่ จ.แม่ฮ่องสอน ย้ำรัฐบาลใหม่ต้องวางแผนรับมืออย่างเป็นระบบ

กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ชวนจับตาสถานการณ์การสู้รบชายแดนไทย-เมียนมา ที่เริ่มกลับมารุนแรง และ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทยให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผู้หนีภัยการสู้รบชาวกะเหรี่ยง 1,407 คน ที่อพยพมายังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ที่ อ.เสาหิน จ.แม่ฮ่องสอน

กัณวีร์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทยที่เปิดรับผู้หนีภัยการสู้รบมาพักในพื้นที่ปลอดภัยในประเทศไทย ตามหลักมนุษยธรรม เพราะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยไม่เร่งรีบในการผลักดันกลับ จนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย และจำเป็นที่ไทยจะต้องวางแผนรับมืออย่างเป็นระบบ จากสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี 

"ซึ่งจะเป็นอีกภารกิจสำคัญที่ผมตั้งใจจะผลักดันทำงานเรื่องนี้ร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลครับ"

กัณวีร์ ระบุว่า สถานการณ์การสู้รบ บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้หนีภัยการสู้รบชาวกะเหรี่ยง เข้ามายังประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.66 จำนวน 1,407 คน

"ผมยังจำได้ตอนปฏิบัติภารกิจกับ UNHCR ในเมียนมา ผมต้องจัดทีมส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้ความรุนแรงของทหารต่อประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้แบบอหิงสากับความอยุติธรรม แต่กลับกลายเป็นเหยื่อของความรุนแรง และต่อมามีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ KNPP และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน People Defence Force (PDF) ในรัฐคะยา ในพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย จนทำให้รัฐคะยามีจำนวนผู้ผลัดถิ่นภายในประเทศ ก้าวกระโดดจากหลักร้อยเป็นหลักแสนแค่เพียงชั่วข้ามคืน จึงไม่แปลกที่ความรุนแรงดังกล่าวส่งผลให้คนต้องลี้ภัยข้ามเขตแดนมายังประเทศไทย จำนวน 1,407 คน ขอขอบคุณอย่างจริงใจต่อส่วนราชการไทย ในอำเภอแม่สะเรียง อำเภอขุนยวม ทั้งท่าน ผวจ. ฝ่ายปกครอง หน่วยงานความมั่นคง และกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท กองกำลังนเรศวร ที่ได้จัดกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัยตามหลักมนุษยธรรมในเบื้องต้นแล้ว รวมทั้งกองทัพอากาศที่ได้จัดเครื่องบินลาดตระเวนเพื่อดูการรุกล้ำน่านฟ้าและแผ่นดินไทยบริเวณชายแดน จ. ตาก และ แม่ฮ่องสอน ด้วย"

กัณวีร์ กล่าวย้ำว่า สถานการณ์การริดรอนสิทธิมนุษยชนในเมียนมามีทีท่าแต่จะเพิ่มมากขึ้น ยังมีผู้ผลัดถิ่นภายในประเทศภายในเมียนมาที่กำลังรอดูสถานการณ์ภายในหากเกิดการสุกงอม คงต้องลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ของเมียนมา ดังนั้น ประเทศไทยต้องเตรียมแผนทั้งเรื่องการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และต้องเตรียมตัวสำหรับความร่วมมือกับมิตรประเทศในการนำสันติภาพกลับคืนมาสู่เมียนมาให้ได้

"รอดูจุดยืนไทยต่อสถานการณ์ในเมียนมาจากรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะสามารถมองถึงแนวทางการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในเมียนมาได้อย่างไรครับ" กัณวีร์ ระบุ