ไม่พบผลการค้นหา
‘สมคิด’โวย ‘ประยุทธ์’ ทำไมตำรวจจับได้ทุกอย่าง แต่จับคนโกงสอบนายสิบไม่ได้ จวกทุจริตกันทั้งกระบวนการ ต้นเหตุจากสวัสดิการต่ำ จนท.ผู้น้อยอยู่ไม่ได้ อัดเวลาเจอบ่อนสั่งย้าย 5 เสือ แต่ดูแล้วเหมือน 5 แมวมากกว่า ย้ำต้องลงโทษให้หนัก ประชาชนจะได้เชื่อใจ ด้าน รมช.กลาโหม แจงแทนย้ำ นายกฯกำชับ หากเจ้าหน้าที่ทำผิด จะถูกลงโทษทั้งทางวินัย-อาญา

วันที่ 15 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ระหว่างวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจาของ สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีบัญชามอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ตอบกระทู้แทน

โดยในช่วงต้น สมคิด ได้กล่าวว่า ผ่านมาเกือบ 4 ปีแล้ว นายกรัฐมนตรียังไม่เคยมาตอบกระทู้เองเลย จะว่าให้เกียรติสภาหรือไม่ก็ไม่ทราบ เพียงแต่บ่นให้ฟังเหมือนสมาชิกทุกคน

“รัฐมนตรีที่มาตอบ ต้องขออภัย พวกผมเรียกว่าท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทู้ เนื่องจากท่านขยันตอบกระทู้ และท่านตอบทุกเรื่องแทนนายกฯ ปกติเรามอบแทนกันได้ แต่ถ้าทุกเรื่องมากนักก็ไม่น่าจะสง่างามเท่าไหร่” สมคิด กล่าว

จากนั้น สมคิด กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าว เรื่องการทุจริตสอบนายสิบตำรวจภูธร ภาค 9 และภาค 5 ซึ่งทำให้สังคมข้องใจ ตำรวจชั้นปฏิบัติการยังทุจริตเช่นนี้ มีข่าวตลอดเวลาแต่ไม่มีการแก้ไข ตนหวังให้ตำรวจทำงานอย่างดีและมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เข้ามาเพื่อไถเงินประชาชน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จำเป็นต้องรับผิดชอบ รวมถึงผู้บัญชาการศึกษา และผู้บังคับบัญชา ตำรวจภูธร ทั้ง 2 ภาคดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม เหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องอยู่ในกระบวนการ ดังนั้น การสอบสวนต้องเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะมีการรู้เห็นเป็นใจกันได้ ต้นเหตุมาจากการซื้อขายตำแหน่งกันในวงการตำรวจเป็นที่โจษจันของสังคม ประชาชนก็รับรู้และขาดความเชื่อมั่น จึงขอถามว่าทางกองบัญชาการมีมาตรการป้องกันเหตุทุจริตการสอบเช่นนี้อีกหรือไม่

“ตำรวจนี่เก่งนะ จับได้ทุกเรื่อง จับนู่นจับนี่ ยากไปหมดก็จับ เทคโนโลยีจับหมด แต่จับคนโกงข้อสอบไม่ได้ มันคืออะไร ท่านอธิบายวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นให้พวกผมฟังหน่อย”

สมคิด เน้นย้ำว่า คณะกรรมการออกข้อสอบต้องถูกตรวจสอบเป็นพิเศษ เพราะเป็นต้นทางของการทุจริต อย่างไรก็ตาม ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจดีๆ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จึงเห็นว่าควรมีการปฏิรูปวงการตำรวจ ทุกวันนี้เน้นแต่สั่งงานให้ผู้ปฏิบัติ แต่เบี้ยเลี้ยงเป็นเรื่องรอง เมื่อตำรวจในชั้นปฏิบัติอยู่ไม่ได้ จึงต้องทำผิดกติกา ทุจริตคอร์รัปชันเพื่อหาผลประโยชน์ จากเล็กไปใหญ่ต่อเนื่องเป็นลูกโซ่

“เวลามีปัญหาเรื่องตำรวจ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ จะไปจับบ่อน ก็เอาไปเก็บไว้ที่กองบัญชาการก่อน ย้าย 5 เสือ ทุกโรงพักเวลามีอะไรจะย้าย 5 เสือ ผมว่าน่าจะเป็น 5 แมวมั้ง มันต้องใหญ่กว่านั้น เวลามีบ่อนแล้วย้าย สุดท้ายก็กลับมาที่เดิมจำนวนมาก ไม่อยากได้ยินแบบนี้ ใครที่ทำผิดท่านต้องจัดการให้เด็ดขาด หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก แล้วประชาชนจะได้อุ่นใจในการทำงานร่วมกับตำรวจ” สมคิด กล่าว

นายกฯ กำชับเพิ่มมาตรการต้านโกง

พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงว่า ในช่วงการสอบนายสิบตำรวจ มีการจับได้ว่าผู้สอบใช้โพยคำตอบ 1 ราย และได้ขยายผลตรวจสอบ และร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ซึ่งในกระบวนการตรวจสอบต้องดูให้รอบด้าน ทั้งข้อสอบ สภาพแวดล้อม เอกสารต่างๆ เนื่องจากมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ามา 1 พันคนเศษ และต้องเชื่อมโยงกันว่าการทุจริจของทั้ง 2 พื้นที่นั้นเกี่ยวข้องกันเป็นขบวนการหรือไม่

สำหรับแนวทางการสอบตำรวจ ตั้งแต่การออกข้อสอบก็มีการเก็บตัวและเป็นความลับทุกขั้นตอน ไม่สามารถรั่วไหลออกไปภายนอกได้ โดยนายกฯ ได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบรายละเอียด เน้นย้ำให้เพื่มมาตรการ รวมถึงด้านเทคโนโลยี เครื่องมือสื่อสาร กำหนดให้ผู้ชอบใส่ชุดกีฬาเพื่อให้ตรวจสอบสิ่งที่นำเข้าห้องสอบได้ แต่หลังจากนี้คงต้องเพิ่มเติมอีกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล จึงขอรับข้อเสนอของสมาชิกเพื่อแจ้งไปยังทุกหน่วยงาน

พล.อ.ชัยชาญ ระบุว่า นายกฯ เน้นย้ำนโยบายสำคัญด้านเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการของตำรวจชั้นผู้น้อย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องนำไปดำเนินการ ตำรวจ 2 แสนกว่านายที่มีอยู่ คือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ดูแลความสงบสุขให้กับประชาชน ขอให้เชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าพร้อมจะดูแลประชาชนในทุกเรื่อง หากมีปัญหาข้อขัดข้องใดๆ ทุกโรงพักมีการปรับปรุงพัฒนาการรับเรื่องร้องเรียนไปก้าวหน้ากว่าเดิมมาก

“นายกฯ ได้ว่านโยบาย หากเจ้าหน้าที่ทำผิด จะถูกลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา มากกว่าบุคคลทั่วไปด้วยซ้ำ ขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่น ว่าตำรวจทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน จะดูแลให้ดีที่สุด สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว