วันที่ 21 ก.ค. ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม โดยเปิดเผยความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาล หลัง 8 พรรคร่วมได้หารือกัน โดยมั่นใจว่า แนวทางการรวบรวมคะแนนเสียงเพิ่มเติมจาก ส.ว. และ ส.ส. จะทันกำหนดเวลาก่อนวันที่ 27 ก.ค. ที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ปิติพงศ์ ระบุว่า เราให้เสรีภาพกับพรรคเพื่อไทยดำเนินการ แต่ขณะเดียวกันทุกพรรคการเมืองก็ทำงานแข่งกับเวลา แต่สิทธิในการนำเสียงพรรคการเมืองอื่นๆ เข้ามาร่วมสนับสนุน ก็เป็นของพรรคเพื่อไทยเต็มที่
อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางที่ 3 ที่อาจมีพรรคอื่น ๆ เข้ามาร่วม พรรคก้าวไกลจะยอมรับได้หรือไม่ ปิติพงศ์ เชื่อว่า แนวทางดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้ยังอยู่ในแนวทางที่ 1 และแนวทางที่ 2 คือประสานงานกับ ส.ว. และเพิ่มเสียงของ ส.ส. ดังนั้น แนวทางที่ 3 ยังไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะเชื่อในฝีมือของพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคร่วมอื่น ๆ
ปิติพงศ์ ยังเผยว่า สลักเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้เป็นของพรรคก้าวไกลที่จะเป็นผู้ปลดสลักนั้นแล้ว หากแต่เป็นของพรรคเพื่อไทย ซึ่งอยู่ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยจะไปพูดคุยกับ ส.ว. และ ส.ส. พรรคการเมืองอื่น ๆ แล้วนำเงื่อนไขมาเสนอพรรคก้าวไกลว่ายอมรับได้หรือไม่
“เมื่อได้ความชัดเจน จากสมาชิกรัฐสภา เมื่อมาตรา 112 ไม่ใช่สลักทางการเมืองอย่างที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภาที่เคยมีเงื่อนไขแบบนี้ อย่างที่เคยอภิปรายจะหันมาโหวตเห็นชอบหรือไม่ คำถามนี้จะกลับไปหาเขาทันที เพราะตอนนี้ถ้าใครบอกว่ามาตรา 112 คือเงื่อนไขหลัก ผมว่าไม่ใช่อีกแล้ว” ปิติพงศ์ กล่าว