09.00 น. ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ 'พีมูฟ' รวมตัวหน้าองค์การสหประชาชาติ พร้อม เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล หลังการปักหลักชุมนุมเรียกร้องมาแล้วครบ 5 วัน
โดยมีการเผยแพร่แถลงการณ์เรื่อง ‘พีมูฟทวงสิทธิ สร้างอำนาจกำหนดชีวิตด้วยมติ ครม. ภาคประชาชน’ ความดังนี้
นับเป็นวันที่ 5 แล้วที่พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ปักหลักชุมนุมอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าต้องได้พบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ และยื่นข้อเรียกร้องเชิงนโยบายทั้งสิ้น 15 ข้อ เข้าสู่การประชุมของคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเท่านั้น
จนถึงวันนี้ เราได้พบเพียงผู้แทนที่อ้างตนว่าได้รับมอบหมายให้มาดูแลประเด็นปัญหาของพวกเราจากพลเอกประวิตร ที่ทำงานไม่ต่างจากบุรุษไปรษณีย์ ทำได้เพียงส่งสาร แต่ปรากฏชัดว่าไม่สามารถประสานงานไปยังพลเอกประวิตรได้จริงและไม่มีอำนาจในการตัดสินใจนำข้อเรียกร้องของเราเข้าสู่การประชุม ครม. ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและข้อกฎหมายของทางราชการมากกว่าชีวิตและความเป็นความตายของประชาชน
เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจึงได้ร่างมติคณะรัฐมนตรีฉบับภาคประชาชนขึ้นมา ประกอบด้วยข้อเรียกร้องทั้ง 15 ข้อ และรายละเอียดจากพวกเราประชาชนที่ประสบปัญหาตัวจริงเสียงจริง พวกเราใช้เวลาเพียง 1 วันในการทำให้ร่างมติ ครม. นี้เกิดขึ้น เพราะเราอยากสะท้อนให้ผู้มีอำนาจและเพื่อนๆ อีกหลายกลุ่มได้เห็นว่า ปัญหาเชิงนโยบายเหล่านี้ไม่อาจรอให้เวลาล่วงเลยไปแล้วจึงค่อยแก้ หากรัฐบาลมีความจริงใจและมีประสิทธิภาพมากพอก็จะสามารถแก้ไขปัญหานำเข้าสู่ ครม. ได้โดยไร้ข้ออ้างใดๆ
นับแต่บัดนี้ เราจะนำร่างมติ ครม. ภาคประชาชนไปยื่นให้ถึงมือ ครม. พวกเราได้ประกาศระดมกำลังมวลชนเพิ่มเติม จนมีมวลชนไม่ต่ำกว่า 1,000 คน จาก 119 เครือข่าย และจะทยอยเข้ามาสมทบเรื่อยๆ เราจะนำมวลชนของพวกเราเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นร่างมติ ครม. ฉบับนี้ และจะมีทั้งหมด 3 เงื่อนไขที่รัฐบาลต้องรับ ได้แก่
1. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากยกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ต้องมารับร่างมติ ครม. ภาคประชาชนด้วยตนเอง
2. จะไม่มีการเปิดเจรจาวงเล็ก แต่ให้มารับร่าง มติ ครม. ภาคประชาชนด้วยตนเอง และเจรจาต่อหน้าผู้เข้าร่วมชุมนุมทั้งหมด
3. จะต้องมีหลักประกันที่ชัดเจน เป็นลายลักษณ์อักษร ว่าจะมีการนำข้อเรียกร้องทั้งหมดเข้าสู่การประชุมของ ครม. ให้มีมติเห็นชอบโดยเร็วที่สุด
พวกเรายืนยันว่า เราให้เวลาท่านในการแก้ไขปัญหาของพวกเรามานานพอแล้ว และไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป ยิ่งดำเนินการล่าช้าเท่าไร มวลชนก็จะเพิ่มมากขึ้น และการเคลื่อนไหวก็จะถูกยกระดับมากขึ้นเท่านั้น และอาจนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลท่ามกลางความสั่นคลอนของพวกท่านเอง