ไม่พบผลการค้นหา
ศิลปะแห่งเสียงหัวเราะบนโลกออนไลน์ ที่เหล่าผู้ (อยาก) ผลิตคอนเทนต์ จับจ้องเข้าไปแชร์ส่วนแบ่งการตลาด

โดยธรรมชาติแล้วนั้น มนุษย์และศิลปะไม่อาจแยกออกจากกันได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วมนุษย์ย่อมต้องการการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งวิวัฒนาการการพักผ่อนหย่อนใจของมนุษย์นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละยุคแต่ละสมัย

แล้วในศตวรรษที่ 21 ยุคแห่งการเชื่อมต่อไร้สาย ยุคแห่งสังคมออนไลน์ เราไม่ต้องพาตัวเองออกไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจอีกต่อไปแล้ว เพราะเหล่าผู้มอบความบังเทิงพร้อมจะมอบเสียงหัวเราะให้ส่งตรงผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่คุณสะดวกใจจะหยิบมาชม

เพจเฟซบุ๊กต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์หลักในการเป็นผู้มอบเสียงหัวเราะและความบันเทิงมีมากมายเสียจนยืมนิ้วเพื่อนอีกสิบคนมานับก็ไม่หมด ไม่เพียงเท่านั้นเพจเหล่านี้ต่างพยายามสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อไม่ให้เพจของตนไหลไปกับกระแสของคอนเทนต์ที่ท่วมทะลักไม่ต่างกับน้ำป่าไหลหลาก

เพจตลกสากลจากคนไทยและลูกครึ่ง

“Charles The French” เป็นอีกหนึ่งเพจเฟซบุ๊ก ที่น่าสนใจด้วยเอกลักษณ์ที่ชัดเจน คือการสร้างคอนเทนต์เป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ ด้วยเนื้อหาที่จับทั้งกลุ่มวัยรุ่นและเหล่าผู้คนวัยทำงาน 'วอยซ์ ออนไลน์' สัมภาษณ์ 'ธาดา พี่ยานุพงศ์' และ 'ชาร์ล อเล็กซิส กูนาร์ด' 2 คู่หูที่อยู่เบื้องหลังเพจที่มียอดคนติดตามกว่า 900,000 คน ภายในระยะเวลา 2 ปี ที่เปิดเพจมา

charles the french

'ชาร์ล' เล่าให้ฟังว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากการที่ตนโพสต์คลิปตลกลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว และภายในเวลาชั่วข้ามคืนก็มียอดคนดูกว่าหมื่นครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าตนเองตกใจและไม่ได้คาดว่าจะมีผลตอบรับอะไรขนาดนั้น เพราะส่วนตัวแค่อยากทำคลิปตลกให้เพื่อนดู หลังจากนั้นชาร์ลก็โพสต์คลิปเพิ่ม 2-3 คลิป ก่อนที่จะมี 'ธาดา' เข้ามาช่วยในส่วนของการเขียนบท การกำกับ และร่วมเป็นนักแสดงด้วย

ทำให้ภายในระยะเวลา 1 เดือน เฟซบุ๊กของชาร์ลก็มียอดขอเป็นเพื่อนเกิน 5,000 คน ซึ่งเป็นยอดสูงสุดที่เฟซบุ๊กอนุญาตให้บัญชีส่วนบุคคลมีเพื่อนได้ และทั้งสองคนจึงเปิดเพจเฟซบุ๊ค "Charles The French" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559

ทั้งสองคนเล่าให้ฟังว่าหลังจากทำเพจได้ไม่นาน ตอนนั้นแอปเปิลออกไอโฟน 7 ทั้งสองจึงทำคลิปล้อเลียนโดยให้ชาร์ลแสดงเป็น 'ทิม คุก' ซีอีโอของแอปเปิลและพูดถึง ไอโฟน 7 ในรูปแบบเหน็บแนมต่างๆ ซึ่งผลตอบรับดีมากและถือว่าดีที่สุดตั้งแต่ทำคลิปมา

คลิปนั้นมีชื่อว่า “How the iPhone 7 Should Have Been Announced” ซึ่งลงในเพจครั้งแรกในวันที่ 8 กันยายน 2559 และปัจจุบันมียอดคนดูกว่า 49.9 ล้านคน อีกทั้งเพจ 9GAG ที่มีคนติดตามกว่า 40 ล้านคนทั่วโลกก็ยังเอาคลิปวิดีโดนี้ไปโพสต์เช่นเดียวกัน


“ตอนนี้น่าจะมีคนดูคลิปนี้ประมาณ 49.9 ล้านครั้ง เกือบ 50 ล้านครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึง 50 ล้านสักที เรื่องตลกสำหรับคลิปนี้ก็คือ นี่เป็นคลิปเกี่ยวกับไอโฟน 7 ที่มีคนดูมากที่สุดในโลกจากทุกช่องทางออนไลน์ เรามีคนดูมากกว่าแอปเปิลซะอีก” ชาร์ลพูดติดตลก


ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพื่อ 'เงิน'

คนทั่วไปอาจคิดว่าตัวเลขคนติดตามเพจและจำนวนการมีส่วนร่วมของผู้ชมในแต่ละคลิปที่มากขนาดนี้ น่าจะทำให้ทั้งสองคนทำเงินได้ไม่น้อยจากเพจของพวกเขา แต่ชาร์ลตอบว่า

“ถ้าคุณอยากจะเป็นผู้ให้ความบันเทิงบนช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างคอนเทนต์ตลกหรืออะไรพวกนี้ มันเป็นเหตุผลที่ผิดที่จะทำเพื่อธุรกิจหรือเพื่อการตลาด เพราะอย่างแรกเลยคนรู้สึกได้เวลาคุณปลอม เหตุผลที่มันเกิดเพราะว่าพวกเราเป็นตัวเอง”

ขณะที่ธาดาเสริมว่า “สิ่งที่ผมภูมิใจคือ เราเริ่มทั้งหมดนี้จากเพราะทำและสนุก และมาถึงตอนนี้เราก็ยังทำเพื่อความสนุกสนานอยู่”


“สำหรับเฟซบุ๊กเราไม่ได้ได้รายได้จากตรงนี้เลย ทั้งหมดทำเพื่อความสนุก” ธาดากล่าว


ทำด้วยความรัก ทำด้วยอิสระ

อย่างไรก็ตาม การสร้างตัวตนในเพจเฟซบุ๊กก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการรักษาระยะความน่าสนใจ และทั้งคู่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคที่เข้ามา

ชาร์ลและธาดาบอกว่า ถ้าเกิดทั้งคู่มองการทำเพจในแง่การตลาดหรือจ้องจะหาผลประโยชน์ด้านตัวเงินกับมัน แน่นอนว่าต้องเผชิญกับปัญหาอย่างแน่นอน เพราะบางคลิปคนดูก็ไม่ถึงยอดที่คาดไว้ แต่เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้มองแบบนั้น

พร้อมกับย้ำว่าทำเพจขึ้นมาเพื่อเสียงหัวเราะไม่ใช่เงิน ดังนั้นจึงไม่เจอกับความยากลำบากใดๆ เพราะในฐานะผู้ผลิตและผู้คิดงาน ทั้งคู่มีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงาน

เมื่อมองลึกลงไปในการสร้างสรรค์คลิปของทั้งคู่ ก็เกิดคำถามว่านอกจากการทำคลิปแล้วนั้นทั้งคู่ยังทำอะไรอย่างอื่นอีกไหม คำตอบที่เราได้คือทั้งสองคนเป็นนักมายากลมืออาชีพและมีโชว์ทั่วประเทศไทยและทั่วโลก

ในตอนนี้ทั้งสองคนมีโชว์ยาว 6 วันต่อสัปดาห์ไปถึงสิ้นปีที่ Khaosan Theater และยังรับให้คำปรึกษากับนักมายากลคนอื่นๆ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าทั้งสองคนทำงานเยอะ แต่ก็ดูสนุกและมีความสุขกับทุกอย่างที่ทำ

charles the french

เมื่อถามชาร์ลและธาดาว่า อะไรคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังพลังงานที่พวกเขานำมาใช้ในการสร้างสรรค์งานและโชว์ พวกเขาตอบมาง่ายๆ ว่า "ก็แค่ให้ทำในสิ่งที่รัก และเป็นตัวของตัวเองให้มากๆ มีความคิดสร้างสรรค์เยอะๆ แค่นั้นก็พอแล้ว"

นี่คือคำแนะนำจากทั้งสองคนถึงเด็กรุ่นใหม่ที่อยากจะหยิบจับช่องทางออนไลน์ขึ้นมาเป็นอาชีพด้วย

ธาดาฝากถึงคนยุคใหม่ว่า ข้อดีของเด็กสมัยนี้ คือมีงานอดิเรกให้เลือกทำเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเราเจอว่าเราเก่งอะไรและทุ่มเทฝึกฝนความสามารถตรงนั้นจนเชี่ยวชาญ แล้ววันนึงถ้าเราอยากโชว์ทักษะตรงนั้น ก็แค่มาโชว์ผ่านช่องทางออนไลน์

ส่วนชาร์ลเสริมว่า เด็กยุคใหม่กับออนไลน์เป็นของคู่กันอยู่แล้ว แทบทุกอย่างเป็นออนไลน์ไปหมดแล้ว โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ทุกอย่างเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมต่อมากมาย


"สร้างผลงานต่อไป เป็นตัวของตัวเอง มีความคิดสร้างสรรค์ พยายามอย่าทำเพื่อเงิน อย่าให้เงินเป็นเหตุผลหลักในการสร้างคอนเทนต์ของคุณ เพราะนั่นจะทำลายความเป็นตัวของตัวเอง" ธาดากล่าว


"Charles The French" เป็นเพจเฟซบุ๊กที่ยังคงยืนอยู่บนอุดมการณ์ที่จะมอบเสียงหัวเราะให้กับคนดูและไม่ได้ทำเพื่อสนองเงินตราที่มีเสนอเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งธาดาและชาร์ลพยายามพิสูจน์เห็นว่าเด็กยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องมองหรือทำทุกอย่างเพื่อเงิน เพื่อให้ประสบความสำเร็จ เพราะการทำด้วยใจรักจะทำให้ผลสำเร็จนั้นยืนยาวกว่ากันมาก

เทคโนโลยีจะมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่จงอย่าลืมใจความสำคัญว่าเราใช้มันทำอะไร


เรื่องที่เกี่ยวข้อง :