วันที่ 15 ก.ย. 2565 ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "หรือแกล้งโง่ น้ำจึงระบายไม่ได้ มาแล้วครับ ผอ.เขตลาดกระบังแจงกระสอบทรายอุดท่อเป็นเทคนิคระบายน้ำ กันน้ำไหลย้อน ตกลงที่ระบายน้ำไม่ได้นั้น คุณเองนะหรือ ไม่รู้ว่าคิดเองหรือใครกระซิบให้สร้างอุปสรรคแบบนี้ ผมได้ไปต่อว่าเพื่อนๆแที่เคยสอนคณะวิศวะว่า อุดน้ำเพื่อระบายน้ำนี่มันมีด้วยหรือ ทุกคนที่ตอนนี้ก็อายุเท่าผมและเคยเป็นศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ รวมถึงคณบดี ล้วนส่ายหัว บอกไม่เคยสอนกันแบบนี้ ใครตอบอย่างนี้สอบตกแน่นอน"

ปลอดประสพ ระบุว่า ที่เจ้าหน้าที่ กทม.มาอ้างว่า เอากระสอบทรายไปอุดตามท่อเป็นเทคนิคการระบายน้ำนั้น จึงล้วนเป็นเรื่องแหกตาทั้งสิ้น การจะระบายน้ำต้องทำให้น้ำไหลไม่ใช่ไปอุดน้ำ เรื่องนี้ท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คงต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้วละ ลองใช้วิธี”bunker” ใช้กระสอบทรายก็ได้ หรือให้ง่ายกว่าใช้ยางรถยนต์ซ้อนกันล้อมท่อเอาไว้ (และถ้าหากมันเบาไปก็สูบน้ำเข้าไปแทนลม) ตามรูปที่ตนแสดงให้ดู เวลาสูบระบายน้ำออกก็สูบลงไปในท่อ หากวันใดน้ำลดก็ลดจำนวนยางตามลงไป ถ้ากลัวคนไม่เห็นหรือรถจะไปชนก็ปักธงแดงเตือนก็หมดปัญหา แล้วก็ใส่เบอร์พร้อมทำแผนที่ประกอบไว้ด้วยจะยิ่งดี 

"มีคนถามมาว่า ทำไมปีนี้ระยะนี้ฝนชอบตกตอนบ่ายและตกมากทางตะวันออกของกรุงเทพ ก็จะตอบให้ทราบดังนี้ ปีนี้ลมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอันดามันแรงกว่าปกติมาก และแถมลมจากมหาสมุทรแปซิฟิกก็แรงพร้อมๆ กันด้วย เพราะปฎิกริยาจากลานินญา ดังนั้นความชื้นจากทะเล เพราะแดดเผาน้ำทะเลจนกลายเป็นไอ ถูกพัดขึ้นฝั่ง ลมและความชื้นนี้เมื่อผ่าน กทม. ซึ่งมีตึกสูงๆ แอร์คอนดิชัน และความร้อนจากท่อไอเสียรถยนต์มากมาย ก็จะยกเมฆให้สูงขึ้นจนไปเจอความเย็นแถวๆตะวันออกของกทม. เกิดเป็นฝนตกอย่างที่เห็นทุกบ่าย รวมทั้งจังหวัดทางตะวันออกด้วย"

ปลอดประสพ ระบุว่า แล้วจะให้ทำอย่างไรต่อไป เพราะไม่รู้จะไปห้ามฝนได้ยังไง คำตอบง่ายมาก ก็ห้ามกิจกรรมของคนสิ เฉพาะช่วงนี้ให้โรงเรียนและสถานที่ราชการเริ่มเร็วขึ้นและก็เลิกเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน บ่ายสามโมงให้กลับบ้าน เท่านี้ก็หนีฝนหนีรถติดได้แล้ว รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพ ต้องเข้ามาสั่งการในภาพรวม ปัญหามันถึงจะได้รับการแก้ไข อย่าปล่อย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.คนเดียว เขามีอำนาจไม่พอหรอก

ปลอดประสพ ระบุว่า แล้วระยะยาวจะทำอย่างไรดีในเมื่อด้านตะวันออกของกรุงเทพเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ระบายน้ำยาก คำตอบคือ ต้องแก้ในเชิงโครงสร้าง ต้องยอมลงทุนขนาดใหญ่เพราะเป็นปัญหาใหญ่ระดับยุทธศาสตร์ พิจารณาก่อสร้าง Flood Ways ขึ้นมาใหม่เลย ยังไงระยะทางก็ไม่เกิน 20-30 กม. เพียงแต่ค่าเวนคืนจะแพงมากซึ่งก็ต้องยอม และต้องออกแบบให้เป็นประโยชน์กับการระบายน้ำของภาคกลางในภาพรวมด้วย ต่อไปถนนแถวนี้ที่วิ่งทิศตะวันออกตะวันตกให้ทำ Land Bridges หรือทางน้ำผ่านหลายๆแห่ง อย่าไปใช้ท่อระบายน้ำแบบที่ใช้กันอยู่ เพราะมันเล็กและอุดตันง่าย

"ผู้เคยร่วมงานของผมเตือนมาให้ถามถึงเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่กรมโยธาธิการสร้างล้ำเข้ามาในปากคลองรังสิต ซึ่งถูกผมสั่งระงับการก่อสร้างเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทราบมาว่า ได้มีการลักไก่สร้างต่อ ทำให้ปากคลองรังสิตแคบลงไปถึง 10 กว่าเมตร และกรมชลประทานก็ไปสร้างเขื่อนชั่วคราวไว้ที่ตรงนั้นซึ่งปิดเปิดไม่ได้ หรือนี่เป็นสาเหตุของการระบายน้ำออกจากคลองรังสิตไม่ได้ใช่หรือไม่ ท่านรัฐมนตรีมหาดไทยกับรัฐมนตรีเกษตรช่วยไปดูหน่อยเถอะ เอาาเท่านี้พอก่อน ที่เหลือพรรคเพื่อไทยเขากำลังคิดอยู่ เผลอๆเสร็จแล้วด้วย เอาเป็นว่า แน่จริงหรือหากสงสารประชาชนก็รีบยุบสภาเสียโดยเร็ว ให้คนอื่นเขามาทำบ้าง น้ำท่วมมามากพอแล้วขอรับใต้เท้า"