นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค เป็นตัวแทนรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนเครือข่ายผู้พิการกว่า 30 คน ที่มาจากสมาคมต่างๆ อาทิ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมคนตาบอดจ.อุดรธานี กลุ่มเกษตรกรผู้พิการ สมาคมแพทย์แผนไทยที่เป็นคนพิการ เป็นต้น เพื่อเสนอให้พรรคมีนโยบายดูแลช่วยเหลือคนพิการ เช่น การสนับสนุนด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ การเข้าถึงเทคโนโลยี และการคมนาคมขนส่ง เป็นต้น
ทั้งนี้นายพีรพงศ์ จารุสาร เลขานุการสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนคนพิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า 20 ปีที่ผ่านมาคนพิการมีโอกาสเข้าร่วมในบทบาทสังคมมากขึ้น ปัจจุบันมีพ.ร.บ.ส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าสังคมกำลังก้าวเข้าสู่สังคมที่มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน ขณะนี้มีคนพิการจดทะเบียนเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นคนพิการกว่า 2 ล้านคน สิ่งที่คนพิการพยายามนำเสนอคือทำอย่างไรให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข เพราะคนพิการทุกคนควรมีโอกาสได้รับการพัฒนา โดยเฉพาะการเข้าถึงระบบสวัสดิการต่างๆ อาทิ การเพิ่มระบบการคมนาคมขนส่งที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการ พร้อมยกระดับระบบเทคโนโลยีด้านต่างๆ ขณะเดียวกันควรส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำ เพื่อสามารถดำรงชีวิตได้อย่างอิสระ เช่น การเกษตรกรรม หัตถกรรม การนวดแผนไทย และการขายของออนไลน์ จะทำอย่างไรให้อาชีพเหล่านี้สามารถทำที่บ้านได้ รวมถึงควรมีนโยบายยกระดับอาชีพผู้ช่วยคนพิการให้เพียงพอ และเพิ่มค่าตอบแทนการทำงานให้เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ ได้รับการสนับสนุนด้านสวัสดิการจากงบประมาณแผ่นดินด้วย
ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะคนพิการนั้นถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถพิเศษ แต่สิ่งสำคัญคือการได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน หากได้รับการช่วยเหลือก็จะทำให้คนพิการและผู้ด้อยโอกาสได้ขับเคลื่อนความสามารถของตนเองออกมา พร้อมอยากให้ทุกคนภูมิใจในความสามารถของตนเอง โดยพรรคพลังประชารัฐนั้นมีความตั้งใจที่จะรับฟังปัญหาของทุกคนและพร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลผลักดันความสามารถของทุกคนออกมา อย่างไรก็ตามเรามีคนพิการ 2ล้านคน ที่กระจายกันอยู่ ดังนั้นต้องสำรวจโดยนำเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงกันว่ากลุ่มต่างๆจะรวมตัวกันทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านอาชีพ
"คนเราทุกคนเกิดมามีความเป็นคน เราต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นและมีความเท่าเทียมกัน ผมอยากคุยกัยคนพิการ แต่ไม่ได้เพื่อหาเสียง เราต้องการรับฟังเพื่อเป็นจุดเริ่มต้น เรื่องนี้ลำพังรัฐบาลทำเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องไม่ทิ้งคนพิการไว้ข้างหลัง สิ่งแรกที่อยากร้องขอ พรรคเราตั้งใจช่วยคนพิการมีศักดิ์ศรี และอยู่ได้ด้วยความเท่าเทียมกัน อยากเชิญชวนทุกคนมาเป็นคณะทำงานด้านนโยบายของพรรค มาทำสิ่งที่คุยกันวันนี้ให้เป็นรูปธรรม เราต้องช่วยกันขับเคลื่อน หากเราเป็นรัฐบาลเราจะผลักดันทุกนโยบายให้ทำได้ แต่ไม่ว่าเราจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เราต้องช่วยแก้ไขปัญหา พรรคเป็นของคนทุก เรามี 5 นโยบายเพื่อคนพิการ ที่สามารถทำได้และต่อยอดได้ด้วย ส่วนเรื่องผู้ช่วยผู้พิการต้องมีการพัฒนา ผมมาเป็นนักการเมืองเพื่อต้องการช่วยเหลือทุกคนจริง" นายสนธิรัตน์ กล่าว
ด้านนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า พรรคดีใจที่ทุกคนมาเสนอความต้องการ พรรคเตรียมนโยบายต่างๆเพื่อตอบรับคนพิการ วันนี้ถือเป็นวันแรกที่เรามาเจอกัน ดังนั้นเราต้องก้าวไปด้วยกัน เพื่อสร้างอนาคตไปด้วยกัน พรรคเชื่อมั่นในตัวคนพิการทุกคนที่น่าจะสามารถเป็นผู้ประกอบการได้ในทุกอาชีพ อาทิ เกษตรกร หัตถกรรม นวดแผนโบราณ และอาชีพอื่นๆ มากมาย พรรคมีนโยบายเปลี่ยนผู้พิการเป็นผู้ประกอบการที่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างมีความสุข เรามี พ.ร.บ. รัฐวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จะนำทุกคนมาทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคมได้ รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อคนพิการ ส่วนเรื่องผู้ช่วยคนพิการที่ทำงานเสียสละเพื่อสังคม หากเราสามารถช่วยเหลือคนเหล่านี้ได้ก็จะทำให้ผู้พิการสามารถประกอบการด้านอาชีพได้มากขึ้น สำหรับเรื่องการศึกษาและเรื่องทักษะมีความสำคัญ เราต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้มีศูนย์ฝึกทักษะเพื่อคนพิการขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการศึกษา และการฟื้นฟูสมรรถภาพต่างๆเพื่อทำงานร่วมกับระบบต่างๆได้ เพื่อเป็นกำลังสำคัญให้ประเทศต่อไป เราต้องทำให้คนพิการ2ล้านคนสามารถทำมาหากินได้