ไม่พบผลการค้นหา
ประธานาธิบดี 'โจโก วิโดโด' ของอินโดนีเซียเรียกร้องให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงยารักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างเท่าเทียม ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 3.6 ล้านคน

ประธานาธิบดีวิโดโด กล่าวว่า เราจำเป็นต้องสู้เพื่อการเข้าถึงยารักษาและวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ให้เหมาะสมและทันท่วงที พร้อมระบุว่าการบรรเทาหนี้และข้อผูกมัดการชำระเงินคืนจากเจ้าหนี้สำหรับประเทศกำลังพัฒนา จำเป็นต้องถูกเปลี่ยนไปเป็นการจัดหาเงินทุนในการจัดการกับโควิด-19 

ผู้นำอินโดนีเซียเข้าร่วมการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จัดโดยผู้นำ 39 รัฐที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non-Aligned Movement : NAM) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกก่อตั้งเมื่อพ.ศ. 2504 ในช่วงสงครามเย็นและประกาศตัวไม่เลือกข้างมหาอำนาจชาติใด ขณะที่ 'เร็ตโน มาร์ซูดี' รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซียกล่าวในการประชุมดังกล่าวว่า กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจะตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อรวบรวมความต้องการด้านมนุษยธรรมและการแพทย์ที่สำคัญสำหรับรัฐสมาชิก และหลังจากนั้นจะส่งไปยังประเทศหรือองค์กรผู้บริจาค 

ทั้งนี้ อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 11,587 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 864 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกตอนนี้อยู่ที่ 3,646,211 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 252,407 ราย 

ขณะเดียวกัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการยุโรปประกาศว่า บรรดาผู้นำโลกให้สัญญาระดมเงิน 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ซึ่ง 'เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ โลเอิน' ประธานคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ที่ประชุมสามารถรวบรวมคำมั่นในการระดมเงิน 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้ในการพัฒนาและแจกจ่ายวัคซีน การวินิจฉัยโรคและการรักษา นี่จะช่วยในการเริ่มต้นความร่วมมือระดับโลกแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยรายงานระบุว่า ประเทศที่ร่วมการประชุมออนไลน์ดังกล่าวประกอบไปด้วยกลุ่มสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู และประเทศในยุโรปที่ไม่ใช่สมาชิกอียูอย่างสหราชอาณาจักรและนอร์เวย์ รวมถึงญี่ปุ่น แคนาดา และซาอุดีอาระเบีย แต่ไม่มีสหรัฐอเมริกา แม้สหรัฐฯ จะถือเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ของสหประชาชาติก็ตาม 

อ้างอิง CNA / The Straits Times