อาร์เอส คาดทีวีดิจิตอลจะแข่งขันรุนแรง ระบุ การแจกคูปองทีวีดิจิตอล ยังไม่ทำให้ผู้ชมเปลี่ยนพฤติกรรมจากการับชมผ่านเคเบิลและทีวีดาวเทียม ด้าน SLC เตรียมยื่นฟ้องผู้บริหารและสื่อเครือเนชั่น หลังถูกกล่าวหาการเข้าซื้อหุ้นเครือเนชั่น 
     
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) คาดว่า การแข่งขันในธุรกิจทีวีดิจิตอล จะมีความรุนแรงมากขึ้น จากเดิมที่คาดว่า จะเห็นผลต่ออุตสาหกรรมภายใน 3 ปี แต่จะเร็วขึ้นภายในปีนี้  รวมทั้งคาดว่า เม็ดเงินโฆษณาโทรทัศน์ 50-60% จะอยู่เพียง 5-6 สถานีเท่านั้น นอกจากนี้ส่งผลต่อทีวีดาวเทียมที่เคยมี 200-300 ช่อง เหลือเพียง 50 ช่อง 

ส่วนการแจกคูปองทีวีดิจิตอลของกสทช. ให้ประชาชนไปแลกรับกล่องรับสัญญาณ หรือ ทีวีดิจิตอล จะไม่ส่งผลต่อพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ที่ชมผ่านเคเบิลและทีวีดาวเทียมถึง 70% จึงไม่ส่งผลต่อเรตติ้งของทีวีดิจิตอล โดยสิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับคอนเทนต์และผู้ชมมากกว่า 
    
ทั้งนี้ อาร์เอส ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ อยู่ที่ 4 พัน 6 ร้อยล้านบาท  และอัตราการทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 15% หรือ 700 ล้านบาท  สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และคาดว่า ช่อง 8 มีเรตติ้งอันดับ 3 ของโทรทัศน์ทั้งประเทศ จากปัจจุบันอยู่อันดับ 5 โดยได้ปรับค่าโฆษณาใหม่เพิ่มขึ้น 3 เท่า อยู่ที่ 7 หมื่น - 2 แสนบาทต่อนาที และ เตรียมงบลงทุนในธุรกิจสื่อรวม 1,300 ล้านบาท  
     
ด้านบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เจ้าของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ออกแถลงการณ์ยืนยัน การเข้าซื้อหุ้น เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป  จีเอ็มเอ็มแกรมมี่  ทีนิวส์ และบริษัทอื่นๆในอนาคต ถูกต้องตามกฎหมาย โดยแหล่งเงินทุน 2,192 ล้านบาท มาจากการเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและสามารถตรวจสอบได้ โดยไม่มีความคิดครอบงำสื่อ รวมทั้งให้สปริงนิวส์นำเสนอข่าวอย่างอิสระ เพื่อมุ่งเน้นประโยชน์ต่อสาธารณะ มากกว่าประโยชน์ส่วนตน 

โดย SLC จะดำเนินคดีทางอาญา และฟ้องเรียกความเสียหายทางแพ่ง จากการเขียนข่าวและบทความของผู้บริหารและสื่อในเครือเนชั่น และ จะนำเงินจากการฟ้องร้อง บริจาคให้กับองค์กรหรือกองทุนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาวงการสื่อมวลชน และจะร้องเรียนไปยังสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ถึงข่าวและบทความ รวมทั้งพฤติกรรมบางประการ ที่มีการกระทำที่ขัดต่อหลักจริยธรรมจรรยาบรรณ เพื่อให้ตรวจสอบและลงโทษผู้บริหารของสื่อในเครือเนชั่นต่อไป