ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีระดับโลกมานานแล้ว โดยผลรายงานเรื่องการลงทุนในไทยล่าสุด เปิดเผยว่าไทยเป็นแหล่งผลิตเครื่องเงินอันดับ 1 ของโลก และเป็นแหล่งเจียระไนเพชรที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก
ชาวไทยได้ชื่อว่ามีฝีมือและเทคนิคด้านการเจียระไนเพชรพลอยติดอันดับต้นๆของโลก ทำให้แต่ละปี มีการส่งเพชรดิบหรือพลอยดิบจากทั่วโลก เข้ามาเจียระไน และทำเป็นเครื่องประดับในไทยจำนวนมหาศาล โดยรายงานเรื่องการลงทุนในประเทศไทยล่าสุด เปิดเผยว่าไทยเป็นแหล่งผลิตเครื่องเงินอันดับ 1 ของโลก นอกจากนี้ ไทยยังเป็นแหล่งเจียระไนเพชรที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นแหล่งเจียระไนพลอยที่ใหญ่เป็นอันดับ 12 ของโลก
อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นผลมาจากที่รัฐบาลไทยมีนโยบายที่สนับสนุนและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 5 ของไทย คิดเป็นสัดส่วน 3.24% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ สถิติจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยว่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีผู้ประกอบการเกี่ยวข้องทั้งหมด 37,658 ราย ก่อให้เกิดการจ้างงาน 9 แสนคน โดยในปีนี้ คาดว่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยจะมีมูลค่าส่งออกที่ประมาณ 400,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ส่งออกได้ 380,000 ล้านบาท
การที่ไทยเป็นแหล่งผลิตเครื่องประดับที่ทำจากเพชรพลอยติดอันดับโลก ก็ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมเดินทางมาเพื่อซื้อเครื่องประดับเพชรพลอยในไทยด้วย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ ต่างหู หรือแหวนแต่งงาน ซึ่งขณะนี้ สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ก็มีนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีปัญหาเกี่ยวกับการที่ร้านขายเครื่องประดับเพชรพลอยบางแห่งหลอกลวงนักท่องเที่ยวด้วยการขายเพชรพลอยที่มีตำหนิ ไม่ได้มาตรฐาน หรือในบางกรณีก็เป็นของปลอมไปเลย ด้วยราคาที่สูงเกินจริง ซึ่งก็สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของธุรกิจอัญมณีในประเทศ ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว