ไม่พบผลการค้นหา
 Biz Insight :  ชนชั้นกลางจีนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จน้อยลง
Biz Insight  : บริษัทญี่ปุ่นตีตลาดเพื่อผู้สูงอายุในไทย
ธุรกิจห้องพักชั่วคราวในสนามบินเริ่มตั้งหลักแม้รายได้น้อย
Biz Feed - บิทคอยน์ร่วงเพราะรัฐบาลในเอเชีย? - Short Clip
Biz Feed - แพทย์แคนาดาค้านขึ้นค่าแรงตัวเอง - Short Clip
Biz Insight : แท็กซี่ญี่ปุ่นคิดช่วยผู้โดยสารประหยัดค่าเดินทาง
Biz Feed - ธุรกิจกัญชาดึงดูดบุคคลากรชั้นแนวหน้าจากทั่วโลก - Short Clip
CLIP Biz Feed : 'พิโก' เครื่องผลิตคราฟท์เบียร์ประจำบ้าน
Biz insight  : ธุรกิจส่งสินค้าในจีนโตต่อเนื่อง แต่มีปัญหาขยะล้น.
CLIP Biz Feed : จ่าย 2 ล้านได้อยู่ไทยแบบอภิสิทธิ์ชน 20 ปี
โลกธุรกิจเผชิญการโจมตีไซเบอร์รอบใหม่ 'เพเทีย'
Biz Insight : ธุรกิจขาดจริยธรรม อาจพบจุดจบในไม่ช้า
Biz Insight : ต้องใช้เงินแค่ไหนเพื่อช่วยผู้ลี้ภัยโรฮิงญา
Biz Feed- ถนนเมืองไทยอาจอันตรายที่สุดในโลก - Short Clip
Tech Feed: 5 สมาร์ตวอตช์สุดล้ำ ราคาไม่เกิน $300
Biz Insight  : จับตามอง iPhone 8 หลัง Galaxy Note 8 เปิดตัวไม่ฮือฮา 
Tech Feed: Nextbit สมาร์ตโฟนระบบคลาวด์
เด็กไทยจ่ายเงินซื้อขนมมากสุดในเอเชียแปซิฟิก
CLIP Biz Feed : มาสด้าสนใจลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
 Biz Insight   นักท่องเที่ยวชี้ ตม.ไทยเรียกโชว์เงินเลือกปฏิบัติ
Biz Insight  ฝังไมโครชิพในตัวพนักงาน ช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้น
Jul 25, 2017 12:54

บริษัทในต่างประเทศบางแห่งเริ่มใช้การฝังไมโครชิพลงในร่างกายของพนักงานแทนการใช้บัตรพนักงาน ล่าสุดบริษัทในสหรัฐฯ  เริ่มฝังไมโครชิพให้กับพนักงานซึ่งจะช่วยให้การทำงานในออฟฟิศมีความสะดวกรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

เทคโนโลยีการใช้ไมโครชิพที่มีขนาดเล็กเท่าเม็ดข้าวสารฝังเข้าไปในร่างกายเพื่อตามหาและระบุตัวตนถูกใช้กับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่า หรือสัตว์เลี้ยงมานานแล้ว จนกระทั่งเริ่มมีแนวคิดการนำมาใช้กับมนุษย์เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นการติดไมโครชิพลงในตัวนักโทษเพื่อป้องกันการหลบหนี หรือติดลงในตัวเด็กเพื่อป้องกันเด็กหาย ซึ่งก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยว่าอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ว่าเทคโนโลยีของไมโครชิพก็พัฒนาไปมาก จนปัจจุบันไมโครชิพสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่าการติดตามตัวและระบุตัวตน เช่น สามารถบันทึกข้อมูลการเงินและใช้แทนเงินสดเวลาซื้อของ หรือใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เล็กทรอนิกส์ต่างๆทำให้การใช้ชีวิตมีความสะดวกสบายมากขึ้น จนบริษัทบางแห่งมีแนวคิดที่จะให้พนักงานฝังไคโครชิพแทนการใช้บัตรพนักงาน

โดยในปี 2015 บริษัท Epicenter ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ สัญชาติสวีเดน ได้เริ่มเชิญชวนให้พนักงานเข้ารับการฝังไมโครชิพแทนการใช้บัตรพนักงาน ซึ่งไมโครชิพที่ฝังในตัวพนักงานนี้ ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RFID ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการระบุสิ่งต่างๆ โดยอาศัยการปล่อยคลื่นวิทยุ ควบคู่กับ NFC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวแบบไร้สาย เพียงแค่แตะก็สามารถเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งไมโครชิพจะถูกฝังอยู่ใต้ฝ่ามือตรงกลางระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ ซึ่งไม่เป็นอันตรายและไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใดๆต่อร่างกาย สามารถใช้แทนบัตรพนักงานในการเปิดปิดประตู และซื้อของภายในร้านค้าของบริษัทได้ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากพนักงาน โดยมีพนักงานสนใจและรับการฝังไมโครชิพด้วยความสมัครใจถึง 2,000 คน และนับว่าเป็นบริษัทแรกในโลกที่ฝังไมโครชิพให้กับพนักงาน

ล่าสุด บริษัท Three Square Market ในมลรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็นผู้ผลิตตู้ขายของอัตโนมัติ ก็กลายเป็นบริษัทแห่งแรกในสหรัฐฯที่จะให้พนักงานของบริษัทฝังไมโครชิพแทนการใช้บัตรพนักงาน ซึ่งไมโครชิพนี้จะช่วยให้พนักงานใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์, เครื่องถ่ายเอกสารต่างๆ, เปิดประตู และจ่ายเงินเวลาซื้ออาหารในโรงอาหารของบริษัทได้ เบื้องต้นมีพนักงานประมาณ 50 คน อาสาที่จะฝังไมโครชิพตามนโยบายบริษัท

นายท็อด เวสท์บี ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทของบริษัท Three Square Market บอกว่าไมโครชิพจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในออฟฟิซดีขึ้น เนื่องจากพนักงานไม่ต้องกังวลว่าจะลืมบัตรพนักงานไว้ที่ไหน และเขาคาดการณ์ว่าการใช้ไมโครชิพบนร่างกายมนุษย์จะถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้แทนบัตรโดยสารรถไฟหรือรถบัส รวมทั้งใช้แทนหนังสือเดินทางเมื่อเดินทางออกนอกประเทศ และยังมีประโยชน์ในยามฉุกเฉิน เมื่อพนักงานล้มป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ เพราะไมโครชิพจะบันทึกข้อมูลสุขภาพของพนักงานไว้อย่างละเอียด

นายเวสท์บี ยังบอกด้วยว่าไมโครชิพที่ฝังในตัวพนักงานจะไม่มีระบบจีพีเอสเพื่อติดตามตัว พนักงานจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และค่าใช้จ่ายในการฝังไมโครชิพต่อพนักงาน 1 คนอยู่ที่ประมาณ 300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10,000 บาท ซึ่งทางบริษัทจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog