ไม่พบผลการค้นหา
ทำเงินหายแล้วได้คืน ควรให้รางวัลเท่าไร?
Jul 31, 2017 13:31

จากดราม่ากระเป๋ารถเมล์เก็บเงินล้าน แล้วขนมสองถุงเป็นค่าตอบแทน นำไปสู่คำถาม "การเก็บทรัพทย์สินของผู้อื่นแล้วนำไปคืน คือ สิ่งที่ทุกคนต้องทำเป็นธรรมดา?" แต่สังคมไทยกลับเห็นว่าเป็นความดีที่ต้องชื่นชม

นี้เป็นเรื่องนอกเหนือจากความดีหรือไม่ดี เพราะสามัญที่สุดของมนุษย์ทั่วไปการไม่เอาของผู้อื่นมาเป็นของตัวเอง

ที่นี้เรามาดูกันถ้าเราเก็บเงินของผู้อื่นได้ เมื่อเปิดดูประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก็จะพบการบัญญัติเช่นว่า 
โดยในมาตรา 1323 ระบุถึงการเก็บทรัพย์สินได้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

"บุคคลเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย ต้องทำอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ 
     (1) ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ของหายหรือเจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้น หรือ
     (2) แจ้งแก่ผู้ของหายหรือเจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นโดยมิชักช้า หรือ 
     (3) ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่เจ้าพนักงานตำรวจ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นภายในสามวันและแจ้งพฤติการณ์ตามที่ทราบอันอาจเป็นเครื่องช่วยในการสืบหาตัวบุคคลผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้น 

และเมื่อส่งคืนแล้ว ในมาตรา 1324 ระบุว่า 
"ผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย อาจเรียกร้องเอารางวัลจากบุคคลผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นเป็นจำนวนร้อยละสิบแห่งค่าทรัพย์สินภายในราคาสามหมื่นบาทและถ้าราคาสูงกว่านั้นขึ้นไปให้คิดให้อีกร้อยละห้าในจำนวนที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายได้ส่งมอบทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่น ให้เสียเงินอีกร้อยละสองครึ่งแห่งค่าทรัพย์สินเป็นค่าธรรมเนียมแก่ทบวงการนั้นๆ เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งต่างหากจากรางวัลซึ่งให้แก่ผู้เก็บได้แต่ค่าธรรมเนียมนี้ให้จำกัดไว้ไม่เกินหนึ่งพันบาท 
ถ้าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติใน มาตรา ก่อนไซร้ ท่านว่าผู้นั้นไม่มีสิทธิจะรับรางวัล" 
    

ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่มีกฎหมายแบบนี้ ที่ญี่ปุ่นก็มีเช่นกันโดย

นโยบายของหายได้คืนของญี่ปุ่นมีดังนี้
     1.ถ้าเจอทรัพย์สินที่ลืมทิ้งไว้ สามารถส่งคืนผู้เป็นเจ้าของได้โดยตรง หรือนำไปส่งคืนสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด
     2.ถ้านำทรัพย์สินที่เก็บได้ไปส่งคืนช้ากว่า 1 สัปดาห์ ผู้นำส่งคืนจะหมดสิทธิ์เรียกร้องค่าส่งคืน
     3.ถ้าเกิน 3 เดือน ทรัพย์สินที่ส่งคืนทางสถานีตำรวจ ยังไม่มีบุคคลใดมาแสดงความเป็นเจ้าของ ทรัพย์สินนั้นก็จะตกเป็นของผู้เก็บได้ ยกเว้นทรัพย์สินที่มีการลงทะเบียนตัวตนไว้ เช่น โทรศัพท์มือถือ ,บัตรเครดิต

Source:  
https://www.matichon.co.th/news/614111
http://www.japantimes.co.jp/news/2017/02/04/national/media-national/honesty-best-policy-lost-property/#.WX7XahXyj4Z 
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/766027

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog