ปัญหาใหญ่ของโลกในปัจจุบันคือการมีประชากรมากเกินไป สวนทางกับจำนวนที่อยู่อาศัย แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วก็ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติในการสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งนอกจากจะสร้างบ้านได้รวดเร็วแล้ว ยังประหยัด และยั่งยืนกว่าการสร้างบ้านแบบทั่วไปอีกด้วย
เมื่อต้นปีที่แล้ว บริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ Apis Cor เพิ่งประกาศความสำเร็จในการสร้างบ้าน 1 หลัง ภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยเครื่องพิมพ์ที่อยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง เท่ากับว่า เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ที่ความเร็วเท่านั้น แต่ยังประหยัดในด้านการขนส่ง ที่ไม่ต้องขนชิ้นส่วนจากโรงงานมาประกอบ1 ปีก่อนหน้าความสำเร็จของ Apis Cor บริษัทก่อสร้างสัญชาตจีน Huashan Tengda ก็เพิ่งพิมพ์บ้าน 2 ชั้น ได้สำเร็จ ภายในระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างก้างกระโดดในวงการเครื่องพิมพ์ 3 มิติ และการก่อสร้าง ที่ในเวลาเพียง 1 ปี การสร้างอาคารด้วยวิธีนี้ก้สามารถย่นระยะเวลามาได้ จาก 45 วัน เหลือ 1 วัน
เรื่องต้นทุนด้านวัสดุก็เป็นอีกข้อได้เปรียบของการสร้างบ้านวิธีนี้ ท่ามกลางราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงจนเฟ้อ เกิดการชะลอตัวในตลาดซื้อขาย ซึ่งนอกเหนือจากราคาซื้อขายที่สูงแล้ว ปัญหาหลักของผู้บริโภคทั่วไปคือราคาในการ 'สร้าง' ทำให้เทคโนโลยีที่สามารถลดต้นทุนลงได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
สำหรับบ้าน 24 ชั่วโมง ของ Apis Cor ตกอยู่ที่ราคา 10,000 ดอลลาร์ หรือ 320,000 บาท โดยราคาของตัวอาคารจากเครื่องพิมพ์ของแต่ละบริษัท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ซึ่งนับวันวัสดุเหล่านั้นจะมีราคาถูกลงเรื่อย ๆ จึงน่าจับตามองต่อไปว่า อัตราการเข้าถึงเทคโนโลยีประเภทนี้จะเพิ่มขึ้นหรือไม่ และประเทศไทยจะเริ่มมีการใช้เทคโนโลยีลักษระนี้อย่างแพร่หลายเมื่อใด