บริษัทประกันของอังกฤษเปิดเผยว่าเหตุทุบรถยนต์ที่เกิดขึ้น และมีจำนวนเพิ่มขึ้นปีต่อปี ส่วนหนึ่งมาจากการทิ้งสมาร์ตโฟนนำทางไว้ในรถ ล่อตามิจฉาชีพ
บริษัทประกัน RAC Insurance ในอังกฤษ เผยว่า เกิดเหตุทุบรถยนต์เพิ่มขึ้น 8,700 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จาก 239,920 ครั้งในปี 2016 มาอยู่ที่ 248,920 ครั้งในปีที่แล้ว โดยสาเหตุหลักมาจากการวางสมาร์ตโฟนที่ใช้เป็นอุปกรณ์นำทางทิ้งไว้ ซึ่งเป็นการกระตุ้นมิจฉาชีพให้ลงมือก่อเหตุ
ผู้อำนวยการของ RAC Insurance ระบุว่า ผู้ขับขี่สมัยนี้มักชะล่าใจ และคิดว่าสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์นำทางในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนมีใช้ และไม่เป็นเป้าหมายของโจร แต่โจรทั่วไปมักมองหาสิ่งที่นำไปขายต่อได้ง่าย และจะฉวยโอกาสจากความประมาทเช่นนี้
นอกจากนี้ RAC Insurance ยังเน้นย้ำด้วยว่า เจ้าของรถยนต์จำนวนมากคิดว่าการติดสัญญาณกันขโมยจะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ความจริงแล้วกลับไม่ช่วยในเหตุการณ์เหล่านี้สักเท่าไร เพราะผู้สัญจรผ่านไปมามักไม่ตอบสนองต่อสัญญาณกันขโมยที่ดังขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสัญญาณอาจดังขึ้นเองโดยไม่มีการโจรกรรม ทางที่ดีผู้ขับขี่ไม่ควรวางอุปกรณ์หรือของมีค่าไว้ภายในรถยนต์ หรือหากจำเป็นต้องทิ้งไว้ก็ควรหลีกเลี่ยงที่ที่คนภายนอกจะเห็นได้ชัดเจน