โครงการทดสอบรถบัสไร้คนขับในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ถูกยุติลงชั่วคราว ทันทีหลังจากที่รถหนึ่งคันชนสตรีวัย 30 ปี เบื้องต้น ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นเหตุรถชนหรือชนรถ
หลังจากที่เช้าวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา รถบัสไร้คนขับปะทะเข้ากับสตรีวัย 30 ปี ในกรุงเวียนนา ของประเทศออสเตรีย ส่งผลให้สตรีคนดังกล่าวบาดเจ็บเล็กน้อย และทางเวียนนาได้หยุดการทดสอบรถไร้คนขับในเมืองทันที จนกว่าผลการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะชัดเจน โดยยังไม่ชัดเจนว่าการชนครั้งนี้เป็นความผิดของฝ่ายใด ซึ่ง 'โออาร์เอฟ' สถานีวิทยุโทรทัศน์ของออสเตรียรายงานว่า รถบัสดังกล่าววิ่งด้วยความเร็วแค่ 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ปะทะกับสตรีวัย 30 ปีตามข่าว
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเนฟยา (Navya SAS) เจ้าของรถไร้คนขับคันที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส ได้ทำการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในกว่า 20 เมืองทั่วโลก โดยอ้างว่า มีพยานหลายรายพบเห็นสตรีคนดังกล่าวสวมเฮดโฟนและมองโทรศัพท์มือถือไปด้วยขณะข้ามถนน และเดินเข้าใส่ด้านข้างของรถบัส เนฟยาชี้ว่า สตรีคนที่ว่าได้รับรอยถลอกเล็กน้อยจะเหตุการณ์นี้
ทั้งนี้ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ได้ทดลองให้รถบัสไร้คนขับ 2 คันของเนฟยาวิ่งในเมืองตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีสถาบันเทคโนโลยีออสเตรีย (The Austrian Institute of Technology) และบริษัท ซีเมนส์ โมบิลิตี (Siemens Mobility) เข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย และในการทดสอบการใช้รถไร้คนขับ ภายในจะมีคนขับนั่งอยู่ด้วยเผื่อเกิดปัญหาขึ้น เนฟยาชี้ว่า แม้จะไม่มีความเสียหายมากนัก แต่รถบัสทั้งสองคันจะถูกเก็บเข้าอู่จนกว่าเรื่องราวจะชัดเจน