ปัจจุบัน สัตว์เลี้ยงนับเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทต่อไลฟ์สไตล์การดำรงชีวิตของผู้คนมากขึ้น ในไทยเองก็มีคนหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งความชอบส่วนตัว รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่คนแต่งงานน้อยลง เป็นโสดกันมากขึ้น เลยนิยมเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นเพื่อนคลายเหงา ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในไทย เติบโตขึ้นกันอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้วมีมูลค่ารวมกันอยู่ที่เกือบ 3 หมื่นล้านบาท
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในไทยเป็นธุรกิจที่โตขึ้นต่อเนื่องสวนทางกับเศรษฐกิจที่ซบเซา โตทุกปี ซึ่ง 'กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล' ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เปิดเผยว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยงเป็นธุรกิจที่โตเฉลี่ยปีละ 10% ปีที่แล้วมีมูลค่ารวมกันทั้งหมด 2หมื่น 9พันล้านบาท ซึ่งสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดเป็นของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีสัดส่วนอยู่ 45% ตามมาด้วยธุรกิจดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เช่นโรงพยาบาล คลีนิก หรือสปา สัตว์เลี้ยง มีสัดส่วนอยู่ที่ 32% และตามด้วยธุรกิจของเล่น เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ ของสัตว์เลี้ยงที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 23%
ส่วนจำนวนประชากรสัตว์เลี้ยงทั้งหมดที่มีอยู่ในไทยคือประมาณ 13 ล้าน 2 แสนตัว สัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุดก็คือสุนัขคิดเป็นสัดส่วน 62% หรือ 8ล้าน 2แสนตัว รองลงมาคือแมว คิดเป็นสัดส่วน 23% หรือประมาณ 3 ล้านตัว นอกจากนั้นก็เป็นสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นหรือสัตว์แปลกๆ หายากอีก 15% หรือประมาณ 2 ล้านตัว ซึ่งหากเทียบกับปีก่อนหน้า ถือว่าประชากรสัตว์เลี้ยงในไทย มีจำนวนเพิ่มขึ้นประมาณ 6 แสนตัว หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 7%
ส่วนปัจจัยที่ทำให้คนไทยหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้น อันดับ 1 คือมีคนครองตัวเป็นโสดมากขึ้น และคู่แต่งงานที่ไม่มีบุตรก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้อยากเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา สาเหตุรองลงมาก็คือการแพร่กระจายข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดียในกลุ่มคนรักสัตว์ที่มีการแชร์ภาพพฤติกรรมน่ารักๆ ของสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ ทำให้คนทั่วไปรู้สึกอยากเลี้ยงสัตว์ตามด้วย
อย่างไรก็ตามปัญหาที่ตามมาเมื่อมีคนเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น ก็คือปัญหาการทอดทิ้งสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขที่เป็นสัตว์ที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด เนื่องจากธุรกิจการซื้อขายสัตว์เลี้ยงในไทย ปัจจุบันยังไม่มีการควบคุมอย่างจริงจัง ไม่มีการบังคับฝังไมโครชิพ ไม่มีการขึ้นทะเบียนสุนัข ทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างง่ายดาย ตรงนี้ก็ทำให้ผู้เลี้ยงสุนัขบางส่วนที่ไม่มีความพร้อม เมื่อเลี้ยงสุนัขไปได้สักพักแล้ว ก็นำมาปล่อยทิ้ง เพราะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายหรือความรับผิดชอบด้านอื่นๆ ไม่ไหว เลยทำให้ตอนนี้ปัญหาสุนัขจรจัดเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของไทย ซึ่งตามข้อมูลของสำนักงานปศุสัตว์พบว่าทั่วประเทศไทยมีสุนัขจรจัดอยู่ประมาณ 7 แสน5หมื่นตัว
ตรงนี้จึงมีการเรียกร้องว่ารัฐบาลควรจะออกกฎหมายควบคุมการเลี้ยงสุนัข รวมถึงการซื้อขายสุนัขอย่างจริงจัง เพื่อที่จะให้ประชาชนได้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะซื้อสุนัขมาเลี้ยงสัก 1 ตัว เนื่องจากการเลี้ยงสุนัขขนาดกลางๆ 1 ตัว มีค่าใช้จ่ายตกอยู่ประมาณวัน 100-200 บาท หากคิดเป็นปีจะเท่ากับปีละ 40,000 - 70,000 บาท หรือหากคิดให้ครบอายุขัยของสุนัขตัวหนึ่งแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5 แสน - 9 แสนบาท ต่อ 1 ตัว หากเป็นสุนัขขนาดใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงจนสิ้นอายุขัยก็จะพุ่งสูงไปถึง 1 ล้าน 2 แสนบาท ต่อ 1 ตัว