รัฐบาลจีนเสนอที่จะมอบวีซาทำงานนานสูงสุด 10 ปี ให้กับชาวต่างชาติที่มีฝีมือสูง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อดึงดูดให้ชาวต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาทำงานในจีนให้มากขึ้น ซึ่งจีนมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
จีนตั้งเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วิทยาศาสตร์ หรือ เทคโนโลยี รัฐบาลจีนจึงต้องการที่จะดึงดูดชาวต่างชาติที่มีความรู้ ความสามารถ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ให้เข้ามาทำงานในจีนให้มากขึ้น ล่าสุด รัฐบาลจีนจึงเสนอที่จะมอบวีซาทำงานระยะเวลา 5 ปี และ 10 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ให้กับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานในจีน แต่ก็มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆที่จีนกำหนดไว้
ในเอกสารยื่นขอวีซาทำงานในจีน ระบุไว้ว่า ชาวต่างชาติฝีมือสูงที่ทางการจีนกำหนดไว้หมายถึงใครบ้าง นั่นก็คือ
1) ผู้ที่เคยได้รับรางวัลโนเบล
2) นักกีฬาและโค้ชกีฬาระดับโอลิมปิก
3) ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาด้านดนตรีและศิลปะ
4) ผู้บริหารสถาบันการเงิน
5)ศาสตราจารย์และนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันชั้นนำ
6)เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ผู้ขอวีซาสามารถดำเนินการทุกอย่างได้ออนไลน์ และจะใช้เวลาไม่เกิน 5 วันในการทำวีซา ซึ่งนอกจากตัวผู้ขอวีซาแล้ว ถ้าหากว่ามีคู่ครอง และมีบุตร ก็จะสามารถพาครอบครัวมาอยู่ที่จีนได้ด้วยเหมือนกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นไปตามนโยบายพัฒนาประเทศที่จีนได้วางเอาไว้ โดยนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน เคยกล่าวเอาไว้เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ว่าตอนนี้จีนกำลังอยู่ในช่วงการก่อสร้างประเทศขึ้นมาให้เป็นผู้นำในหลายๆ ด้าน และการพัฒนาประเทศที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่สามารถจะใช้แค่ความรู้ ความสามารถของคนจีนได้เพียงอย่างเดียว แต่คนจีนจำเป็นที่ต้องเรียนรู้ความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศด้วย การมีนโยบายที่เปิดให้ชาวต่างชาติที่มีความสามารถเข้ามาทำงานในจีนจึงเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาประเทศ
จำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในจีนมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ อย่างในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติทำงานมากที่สุดในจีน มีชาวต่างชาติทำงานอยู่ 200,000 คน จากประชากร 21 ล้านคนในเซี่ยงไฮ้ หรือคิดเป็นแค่ 1% ซึ่งก็ถือว่าน้อยมาก หากเทียบกับสิงคโปร์ที่ใช้ชาวต่างชาติเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเหมือนกัน สิงคโปร์มีชาวต่างชาติ ที่ไม่ใช่แรงงาน ทำงานอยู่มากถึง 1 ล้าน 1 แสนคน จากประชากร 5 ล้าน 8 แสนคน หรือประมาณ 20% ของคนที่ทำงานในสิงคโปร์เป็นชาวต่างชาติ