ไม่พบผลการค้นหา
'เพื่อไทย-ก้าวไกล' ถกกันเดือด ปมตัดงบฝายซีเมนต์ 'วิสุทธิ์' ท้า 'สุรเชษฐ์' ลงพื้นที่ดูว่ามีปัญหาจริงหรือไม่ พร้อมเดิมพันตำแหน่งลาออก สส. ลั่น "ไม่รู้ อย่าเสือก" ขณะ 'สส.สุโขทัย' โอด คนไม่มีพื้นที่พล่ามบนโต๊ะ คนมีพื้นที่ทรมาน

วันที่ 21 มี.ค. ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2-3 ที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว มาตรา 20 กระทรวงมหาดไทย ภายหลัง วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณ 2567 และ ทรงยศ รามสูต สส.น่าน พรรคเพื่อไทย รวมถึง เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังพลังพลังสังคมใหม่ ได้อภิปรายทักท้วงกรณีกรรมาธิการตัดงบประมาณทำฝายซีเมนต์วงเงิน 1,200 ล้านบาท 

ในช่วงท้าย สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการฯ ได้ชี้แจงเหตุผลการตัดงบประมาณ 8 ข้อ คือ

  1. เปรียบเทียบการแจกเสื้อโหล S M L ซึ่งแบบทำฝายไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงาน
  2. มีความเร่งรีบอย่างผิดสังเกต
  3. มีการแทรกแซงกระบวนการพิจารณางบประมาณ
  4. มีหลายโครงการมูลค่า 5 แสนบาทจำนวนมาก
  5. ไม่มีการประกันผลงาน 2 ปี
  6. ไม่มีใบอนุญาตทำฝาย
  7. เลี่ยงใช้คำว่าฝายกึ่งถาวร หมายถึงฝายชั่วคราว
  8. มีเพียงกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย 3 คนไม่ตัดงบฯ แต่กรรมาธิการฯ พรรคอื่นให้ตัดหมด จำนนต่อเหตุผล 

และมีข้อสังเกตสำคัญ 4 เรื่อง คือ

  1. มีความพยายามอย่างชัดเจนจาก สส. พรรคเพื่อไทย และ สว. บางคนอยู่เบื้องหลังตั้งงบฝายซีเมนต์ครั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยก็ยอมยอมให้ตัด แล้วในฐานะฝ่ายค้านหากไม่มีเหตุผลก็ไม่สามารถที่จะตัดงบได้สำเร็จ
  2. มีการโฆษณาเกินจริงในการเก็บน้ำเพื่อการเกษตรฯ
  3. การใช้ดินผสมซีเมนต์เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ 
  4. ทำฝายดินซีเมนต์จะเปลี่ยนสภาพลำน้ำถาวร ส่งผลอาจทำให้เขื่อนแตกได้ในอนาคต 

โดยได้ชี้แจง วรวัจน์ ว่าในโครงการนี้ไม่ใช่เห็นว่าไม่มีประโยชน์แต่จะต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย เป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่าและไม่โปร่งใส ไม่มีหน่วยงานประกันคุณภาพ2 ปี และหากเกิดกรณีเขื่อนแตกก็จะส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งยังเข้าใจดีว่าในโครงการนี้มีคนได้ประโยชน์ จากโครงการอยู่บ้าง และมีคนเสียประโยชน์ จากโครงการเช่นกัน และกรรมาธิการเสียงข้างมากก็เลยตัดสินใจดังกล่าว

ทำให้ สุรเชษฐ์ ระบุว่า ในเชิงระบบงบประมาณจะต้องออกจากระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ที่แต่ละพื้นที่จะดึงงบไปให้แต่ละพื้นที่ จะต้องกระจายงบประมาณให้แก่ท้องถิ่นอย่างจริงจังทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งมองว่าไม่ควรใช้วิธีแจกเสื้อโหล ซึ่งหากดีและจำเป็นเห็นด้วยหากจะทำในงบฯปี 2568 แต่ขอให้การันตีอายุฝาย2 ปี 

"ขอฝากข้อคิดไว้ว่า หากคนเรารู้จักแค่ค้อนก็จะมองปัญหาทุกอย่างเป็นตะปู ประเด็นคือฝายมีหลายแบบ ฝายสร้างได้แต่ต้องคิดว่าแต่ละที่จะใช้ขนาดเท่าไหร่ วัสดุอย่างไร ผ่านกระบวนการทางวิศวกรรมที่คิดถึงท้ายน้ำ และปัญหาสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ อย่าคิดเพียงว่าได้ประโยชน์อะไรจากการแจกเสื้อโหล และสุดท้าย ผมคิดว่าคงไม่มีใครอยากดื่มน้ำผสมปูนซีเมนต์" 

ก่อนที่ วิสุทธ์ ไชยณรุณ สส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิ์พาดพิงชี้แจงกรณีที่มีการอภิปรายว่ามีการเตรียมการเบื้องหลัง มือใครยาวสาวได้สาวเอา และกล่าวหาถึงพรรคเพื่อไทย ก่อนยอมรับว่าตนเองสนับสนุนโครงการโครงการฝายซีเมนต์ และขอท้าให้กรรมาธิการไปพิสูจน์ ถ้าไม่เป็นจริง พร้อมลาออกจาก สส.

วิสุทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า พรรคเพื่อไทยถูกพาดพิงจากคำอภิปรายที่ว่ามือใครยาวสาวได้สาวเอา ซึ่งเกิดความเสียหาย ในฐานะ สส. ภาคเหนืออยู่ในพื้นที่ ได้เห็นปัญหาทั้งน้ำแล้งน้ำท่วม ซึ่งเห็นว่าฝายไหนอยู่ได้คงทน และฝ่ายซีเมนต์ไม่ได้คิดเอง มีการอ้างอิงงานวิจัยของนักวิชาการในหลายจังหวัดที่ได้ใช้งบของประชาชนทำมาแล้วก็ยังไม่เจอความเสียหาย ผ่านมาแล้ว 3 ปี 

“ขอท้าท่านสุรเชษฐ์ ไปดูพื้นที่ที่ไหนก็ได้ วันเสาร์นี้ น่าน พะเยา แพร่ ถ้าไม่จริงอย่างที่ผมพูด ผมลาออก แต่ถ้าจริง ท่านต้องรับผิดชอบ เพราะโครงการนี้ถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ท่านคิดแบบนี้เป็นผู้แทนได้ยังไง ไม่รู้อย่าเสือก" วิสุทธ์ กล่าว 

โดยหลังจาก วิสุทธิ์ กล่าวจบ ได้มี สส. จากพรรคเพื่อไทย ปรบมือให้ จากนั้น วรวัจน์ ลุกขึ้นกล่าวว่า สุรเชษฐ์ พูดไม่จริง เป็นจินตนาการ อคติของท่านว่า เพื่อไทยได้ผลประโยชน์ ทั้งที่เป็นการปกป้องประชาชน อย่าเอาอคติมาทำร้ายประชาชน

จากนั้น จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกุล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นขอใช้สิทธิ์พาดพิงเช่นกัน โดยระบุว่า คำว่า S M L ไม่ใช่เสื้อจากที่ สุรเชษฐ์ คิดง่ายๆ จะมาดูถูกครูบาอาจารย์ที่คิดกันหลายวันที่ผ่านมาว่าการออกแบบฝายแกนดินซีเมนต์มีสูตรอยู่ ถ้าความลึก 3 เมตร ต้องขุดไปในแกนดินอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง และสูงขึ้นไปครึ่งหนึ่งทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งการทำแบบนี้ทำในห้วย คลอง ไม่ต้องไปขอกรมเจ้าท่าอย่างที่ สุรเชษฐ์คิด โบราณเขาปั้นเตาเผาเคี่ยวน้ำอ้อยแข็งแรงขนาดไหน พี่น้องปลายใต้น้ำจะกินผงซีเมนต์ ปัญญาอ่อนหรือไม่ คนราชบุรีปั้นโอ่งด้วยปูนทั้งลูก เอาไปส่งให้สุโขทัย 

ทำให้ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วง จักรวาล ให้ถอนคำว่า 'ปัญญาอ่อน' ซึ่ง จักรวาล ยอมถอนคำพูด พร้อมกล่าวต่อไปว่า สุรเชษฐ์ เอาอะไรมาพูดว่าคนใต้กินน้ำปูนซีเมนต์ ถ้าจะพิสูจน์ เคยลงพื้นที่ไปที่เชียงม่วน แก่งเสือเต้นหรือไม่ 

“ถามว่าทำไมชาวบ้านไม่เอาฝายไม้ไผ่ พูดออกมาได้อย่างไร ก็ชาวบ้านเขาเป็นคนขอ ท่านไปดูอบต. แถวบ้านผม รองรับด้วยงบประมาณชาวบ้านทำมากี่ตัวแล้ว พะเยาทำมา 20 กว่าปี แข็งโป๊ก ผมไปดูมา และพูดในสภาหลายครั้ง ผมคนหนึ่งที่ยืนยันกับ วิสุทธิ์ ถ้าไม่เป็นจริง ผมก็ลาออก ถ้าท้องถิ่นไม่ต้องการฝายแกนดินซีเมนต์ ต้องการฝายไม้ไผ่ที่ท่านพูด ผมก็ลาออก กล้าไปดูของจริงหรือไม่ ของแบบนี้ต้องลงไปดู คนเราเก่งจริงต้องลงไปดู คนมีพื้นที่อย่างพวกผมทรมาน คนที่ไม่มีพื้นที่อย่างคุณพูดได้แค่บนโต๊ะ อย่านั่งบนเก้าอี้แล้วพร่ำไปเรื่อย ไม่คิดว่าคนเป็น สส. จะมีความคิดเช่นนี้“ จักรวาล กล่าว

จากนั้น สส. พรรคก้าวไกล ต่างลุกกันขึ้นช่วยกันประท้วงขอให้ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ช่วยควบคุมการประชุม ไม่ปล่อยให้สส.พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิพาดพิงจนเกินเลย

โดย รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การมาท้ากันแบบนี้ประชาชนได้ประโยชน์อะไร ขอให้ประธานช่วยควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความระเบียบเรียบร้อยด้วย จะปล่อยให้พูดพาดพิงแบบนี้ไม่ได้

แม้ ปดิพัทธ์ จะพยายามควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็ยังมีการปะทะคารม ตอบโต้กันไปมาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลอยู่เป็นระยะๆ โดยใช้เวลาถกเถียงในประเด็นนี้นานร่วมชั่วโมง ก่อนจะปิดการอภิปรายในมาตรา 20 และที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตราดังกล่าวตามที่กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากเสนอมา