วันที่ 15 เม.ย. 2565 น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคไทยสร้างไทย และ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย เจนณรงค์ ซาก้า ผู้สมัคร ส.ก.เขตดุสิต พรรคไทยสร้างไทย ร่วมพิธีสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้อาวุโส ในวาระเทศกาลสงกรานต์ ที่วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต และร่วมสำรวจพื้นที่เขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา
น.ต. ศิธา กล่าวว่า วัดนี้เป็นวัดที่อยู่กลางชุมชน ศูนย์กลางของชุมชน เปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันได้ ในรูปแบบ บ้าน วัด โรงเรียน ขณะเดียวกัน พื้นที่เขตดุสิตเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ผ่านมาสามารถป้องกันน้ำท่วมและน้ำล้นได้ แต่ก็มีบางจุด ที่ยังป้องกันน้ำท่วมไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ต้องมีการดำเนินการแก้ไข โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ด้วยการสร้างคันกั้นน้ำที่ไม่บดบังทัศนียภาพ ในรูปแบบ connect-protect หรือ 'เชื่อมโยงและป้องกัน' ที่ทั้งป้องกันน้ำท่วม และให้ประชาชนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้
ทั้งนี้ น.ต.ศิธา ยืนยันว่า ตนเองและผู้สมัคร ส.ก. ทุกคน ของพรรคไทยสร้างไทยมีความพร้อมมาโดยตลอด จนถึงวันเลือกตั้ง แม้ว่าพรรคจะเปิดตัวได้ไม่ถึงปี แต่ขอให้เชื่อมั่นในประสบการณ์ ของคุณหญิงสุดารัตน์ และทีมงานทุกคน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่อยู่กรุงเทพฯ มา 30 ปี ผลลัพธ์ของลงพื้นที่หาเสียง เป็นที่น่าพอใจหรือไม่ คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทย แม้จะเป็นพรรคน้องใหม่ เพิ่งเปิดตัวมาเพียง 7-8 เดือน แต่เราส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ และผู้สมัคร ส.ก. ในนามของพรรค อย่างตรงไปตรงมา เราให้ความสำคัญกับคนกรุงเทพฯ อย่างจริงใจ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจว่าทีมงานของสุดารัตน์ จะคิดต่าง และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้คนกรุงเทพฯ ได้
ต่อข้อถามว่า การเมืองระดับ กทม. จะเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติได้หรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ มองว่า ยังถือเป็นอุปสรรค เพราะที่ผ่านมา การเมืองระดับ กทม. ไม่เคยเชื่อมโยงไปถึงการเมืองระดับชาติได้เลย ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับพรรคการเมืองใหม่ เราสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ว่าพรรคไทยสร้างไทยให้ความสำคัญกับคนกรุงเทพฯ ถ้าคนกรุงเทพฯให้โอกาสดิฉันเข้าไปช่วยทำงาน ไม่ว่าจะในสนาม กทม. และสนามการเมืองระดับชาติ สามารถช่วยพรรคไทยรักไทยตั้งแต่วันนี้ได้ ด้วยการเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 11 น.ต.ศิธา ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของตน และมีดีเอ็นเอของพรรคไทยสร้างไทยอย่างเต็มร้อย