ไม่พบผลการค้นหา
"จุฤทธิ์" สอน "ธนาธร" ประชาธิปัตย์ทำเรื่องกระจายอำนาจสำเร็จมาแล้ว วันนี้ก็ยังสนับสนุนให้มีการกระจายอำนาจอยู่ ด้าน"สุริยะใส"เตือนทุกพรรคทั้งเก่า-ใหม่ ต้องสร้างนวัตกรรมการเมือง ห่วงเลือกตั้งไม่สามารถเปลี่ยนผ่านการเมืองได้

นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวในการสัมมนาที่ จ.เชียงใหม่ ว่า "ยุทธวิธีในการผลักดันการกระจายอำนาจ ตนไม่เห็นความจริงใจในเรื่องนี้จากพรรคประชาธิปัตย์"นั้นว่า คำพูดดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า นายธนาธรอาจไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยเลย หรือนายธนาธรอาจจะรู้อยู่แก่ใจว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ผลักดันการกระจายอำนาจสำเร็จมาก่อน แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับอนาคตนักการเมืองเช่นนายธนาธร

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์สนั��สนุนการกระจายอำนาจมาโดยตลอด ที่เห็นภาพชัดเจนคือการเกิดขึ้นของสภาตำบล อบต. ในสมัยรัฐบาล ชวน 1 หรือการยกระดับจากสุขาภิบาลเป็นเทศบาลในยุครัฐบาล ชวน 2 และผลักดันจนเกิด อบจ. ในยุคนั้นเช่นกัน พร้อมทั้งได้วางหลักการให้มีการตรวจสอบท้องถิ่นได้โดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตนั้นๆ

วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงสนับสนุนการกระจายอำนาจเช่นเดิม ซึ่งเป็นหลักสำคัญอยู่ในนโยบายของพรรคมาโดยตลอด

แม้แต่กรรมการบริหารพรรคยังต้องมีสัดส่วนจากผู้บริหารท้องถิ่นเข้ามาร่วมเป็นกรรมการด้วยเพื่อจะได้ก้าวทันปัญหา ก้าวทันการพัฒนาท้องถิ่นในปัจจุบัน แน่นอนว่าเรื่องการกระจายอำนาจพรรคประชาธิปัตย์ทำมานานแล้ว ทำสำเร็จมาแล้ว และจะทำต่อไป ไม่ใช่ไม่จริงใจในการกระจายอำนาจอย่างที่นายธนาธรกล่าว

"สุริยะใส" เตือนทุกพรรคทั้งเก่า-ใหม่ ต้องสร้างนวัตกรรมการเมือง

นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจที่โพลหลายสำนักสะท้อนคล้ายๆ กันว่าแม้จะเห็นด้วยที่จะมีการเลือกตั้งตามโรดแม็พ แต่ก็ไม่เชื่อมั่นว่าหลังเลือกตั้งสถานการณ์บ้านเมืองจะดีขึ้น โดยเฉพาะการจัดระเบียบจัดขั้วของกลุ่มก้อนและพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ในขณะนี้ถูกมองว่าเป็นคนที่สร้างปัญหาและทำให้การเมืองล้มเหลวซ้ำซาก อีกทั้งประชาชนยังไม่เห็นนวัตกรรมใหม่ ยังพบการดูด กวาดต้อน ย้ายข้างสลับขั้ว เปลี่ยนพรรคกันไปมา กลุ่มการเมืองใหม่ๆก็ยังถูกมองว่าเป็นแค่นอมินี หรือลับลวงพรางอำนาจเก่า ทำให้ความคาดหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นคำตอบสุดท้ายของการเมืองไทยน้อยลง 

นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้าพรรคการเมืองโหมกระแสต้านคสช.และชูการเลือกตั้งเป็นคำตอบ ก็ต้องมีนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการเมือง เช่น การเปิดตัวคนใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ รูปแบบกลไกพรคใหม่ๆ พูดง่ายๆ ทุกพรรคทั้งเก่าและใหม่ต้องแข่งกันเสนอนวัตกรรมการเมืองใหม่ๆ เพราะเดิมพันสูงกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา ยิ่งบางพรรคเสนอสูตรให้ประชาชนเลือกพรรคเอาทหารกับไม่เอาทหาร หรือเอาพรรคประชาธิปไตยหรือฝ่ายเผด็จการ ยิ่งเป็นสูตรการเมืองที่ซ้ำเติมความแตกแยก ใช้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นแค่เหยื่อหรือตัวประกันของนักเลือกตั้งเท่านั้น แพ้ชนะก็ไม่ได้แก้ปัญหาประเทศอย่างแท้จริง

ถ้าวาระการเลือกตั้งครั้งนี้กลายเป็นสภาวะที่ประชาขนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องเลือกระหว่างพรรคที่เลวน้อยที่สุดกับพรรคที่เลวมากที่สุด การเลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนผ่าานการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงได้