ไทย วัน มอลล์ เปิดตัวเวปไซต์ www.thaionemall.com เป็นทางการ หวังก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด E-Commerce ใหญ่สุดในเอเชีย พร้อมเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายในปี 2560
นางสาวจีจี้ (หลุ่ย) แซ่กั๊ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย วัน มอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า เวปไซต์ออนไลน์ ไทย วัน มอลล์ จะเน้นจำหน่ายสินค้า Thailand Best อาทิ อาหารและผลไม้แห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเป็นสินค้าขายดีหรับคนจีน รวมทั้งเครื่องสำอางแบรนด์ไทย , ยาดม และขนมขบเคี้ยว ซึ่งลูกค้าเชื่อมั่นได้ 100% เพราะรัฐบาลจีนให้การสนับสนุน อีกทั้งมีจุดแข็งเรื่องการชำระเงิน โดยสามารถชำระผ่าน Alipay.com โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอน
นอกจากนี้ ยังมีระบบการจัดส่งสินค้าภายเวลาไม่เกิน 10 วัน , ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีขนส่งสำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมในเขตฟรีเทรด หากสินค้าชำรุดเสียหายจากการจัดส่ง ลูกค้าไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน และสามารถพูดคุยกับผู้ประกอบการได้โดยตรง เพราะมี Call Center แบบ Real time อยู่ทั้งในไทยและจีน
หลังเปิดให้บริการมา 7 เดือน "ไทย วัน มอลล์" มีคนเข้าใช้งานประมาณ 6 พัน - 8 พันคนต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นคนจีน และมีประมาณ 5% เป็นคนจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เข้าถึงคนจีนมากขึ้น ตั้งเป้ายอดขายจากเดือนเมษายนปีนี้(57) ถึงเมษายนปีหน้า(58) จะทำรายได้เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท
ปัจจุบัน เวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ อยู่ภายใต้แพลทฟอร์ม อาลีบาบากรุ๊ป ซึ่งเป็นตลาด E-Commerce จากจีนที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในขณะนี้ เป็นที่นิยมในหลายทวีป เช่น เอเชีย และอเมริกา โดยเป็นหนึ่งในแพลทฟอร์ม B2C (Business to Customer) คือ ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรง
และในอนาคต จะขยายธุรกิจในรูปแบบ G2G หรือ Government to Government เพิ่มเติม คือ การร่วมมือกันของรัฐบาลในแต่ละประเทศ และจัดส่งสินค้าในปริมาณมาก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องการจำหน่ายสินค้า อาทิ ผลไม้ และ ข้าว รวมทั้งวางแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายในปี 2560 (2017) และเป็นเวปไซต์ B2C ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ภายใน 5 ปีจากนี้
ขณะนี้ เวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ มีผู้ใช้งานสัญชาติจีนสูงถึง 600 ล้านคน จากประชากรจีนทั้งหมด 1 พัน 4 ร้อยล้านคน โดยจำนวนลูกค้ากว่า 13.9% มาจากเมืองกวางตุ้ง รองลงมาคือ เจ้อเจียง 10.7% และเจียงซู 10.3%