สิงห์ วางเป้า 5 ปีปั้นสินค้ากลุ่มสแน็กติดท็อป 3 ตลาดไทยและอาเซียน สร้างยอดขาย 5-7 พันล้านบาท พร้อมเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศให้เท่ากันในอนาคต
นายโรจน์ เมืองครุธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮสโก ฟู้ด อินดัสทรี่ จำกัด บริษัทในเครือสิงห์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยว เปิดเผยว่า สิงห์ คอร์ปอเรชั่นวางเป้าหมายพัฒนาให้ธุรกิจขนมขบเคี้ยวหรือสแน็ก ก้าวขึ้นติดอันดับ 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดสินค้ากลุ่มขนมขบเคี้ยวทั้งในประเทศไทยและในระดับภูมิภาคอา เซียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา , สปป.ลาว , เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาภายใน 5 ปี โดยจะมียอดขายรวมไม่ต่ำกว่า 5-7 พันล้านบาท ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเน้นการลงทุนอย่างต่อเนื่องในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตร การซื้อกิจการ และการควบรวมกิจการ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์
ส่วนเป้าหมายระยะสั้นภายใน 3 ปี คาดว่าสัดส่วนยอดขายกลุ่มสแน็กจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% หรือ 3 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขาย 15-20% หรือประมาณ 1,500 - 1,600 ล้านบาท จากยอดขายกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีมูลค่ารวม 12,000 -13,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์การทำตลาดเน้นเพิ่มสินค้าใหม่และการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่าง ประเทศ
สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มถือเป็น 1 ใน 5 ธุรกิจของสิงห์ คอร์ปอเรชั่น ปัจจุบันมีรายได้คิดเป็นสัดส่วน 30% ของรายได้รวม ขณะที่กลุ่มสแน็กมีบริษัทในเครือรวม 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ทีเคเอส จำกัด ดูแลแบรนด์มาชิตะ บริษัท เฮสโก้ ฟู้ด อินดัสทรี่ จำกัด ดูแลแบรนด์เนเจอร์ไบรท์ ,โคโค่แจ๊ส ,แม็กซ์และแบรนด์สินค้าส่งออกในต่างประเทศอีกจำนวนมาก และล่าสุดบริษัท สิงห์ ซางโกะ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่มสิงห์ คอร์ปอเรชั่น กับกลุ่มซางโกะ เซกะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำตลาดแบรนด์ยูกิ (Yuki)
ปัจจุบัน สัดส่วนการจำหน่ายสินค้า ในต่างประเทศอยู่ที่ 90% และในประเทศ 10% ในอนาคตธุรกิจขนมขบเคี้ยวจะรักษาสัดส่วน 50 : 50 เพื่อบริหารความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของภาวะตลาด รวมถึงเงื่อนไขทางการค้าในอนาคต