กรมสุขภาพจิต ระบุว่าการสำรวจกลุ่มคนอายุ 15 ปีขึ้นไปในประเทศไทยพบว่าทุก 1 ใน 4 คน จะมีโอกาสมีปัญหาทางสุขภาพจิต และในปัจจุบัน 'โรคซึมเศร้า' ถือว่าเป็นความเจ็บป่วยทางจิตใจที่มีการพูดถึงมากที่สุดอาการหนึ่ง
ในทางการแพทย์ โรคซึมเศร้าถือเป็นภาวะผิดปกติของอารมณ์ อันเป็นผลมาจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทที่เรียกว่า ‘เซโรโทนิน’ (Serotonin) ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมอารมณ์ ความโกรธ ความก้าวร้าว ความหิว ความวิตกกังวล นอกจากนั้น การลดลงของสารสื่อประสาทชนิดนี้ยังมีผลต่อการเกิดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย เนื่องจากภาวะซึมเศร้าถือเป็นความป่วยไข้ทางจิตใจ (mental illness) การตรวจสอบและวินิจฉัยจึงไม่น่าจะง่ายเท่ากับผู้ป่วยด้วยโรคทางร่ายกายอื่น ๆ
การรักษาโรคซึมเศร้าอาจแบ่งได้หลักๆ 3 ทาง คือ
1. การพบนักจิตวิทยาเพื่อบำบัดผ่านการพูดคุย.
2. การรักษาด้วยยา ยาที่เป็นที่นิยมสำหรับการรักษาโรคซึมเศร้า
3. รักษาด้วยยาและการพบนักจิตวิทยาเพื่อทำการบำบัดร่วมกัน
หนึ่งในข้อถกเถียงที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ต่อประสิทธิภาพของยาต้านเศร้าก็คือ ยาเหล่านี้มีผลทางการแพทย์เพื่อรักษาอาการซึมเศร้าจริง หรือเป็นเพียงยาที่มีผลในเชิงจิตวิทยาไม่ต่างจากยาหลอก
Source :
http://www.tcijthai.com/news/2017/2/scoop/6761