ชมรมแพทย์ชนบทออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรื่อง ข้อเรียกร้อง 3 ประการต่อกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างลูกจ้างเงินนอกงบประมาณ
จากการที่กระทรวงการคลังได้ออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 ได้ลงนามในวันที่ 18 พฤษภาคม 2561โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
มีสาระสำคัญคือ หากส่วนราชการมีความจำเป็นต้องจ้างลูกจ้างจากเงินนอกงบประมาณ ต้องทำความตกลงกับกระทรวงการคลังก่อน รวมทั้งให้มีการจ้างขั้นต่ำสุดและไม่ให้มีการเลื่อนค่าจ้าง จนนำไปสู่การขึ้นป้ายคัดค้านอย่างกว้างขวางทั่วประเทศจากโรงพยาบาลต่างๆ จนทางกระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุมและออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้ทางผู้เกี่ยวข้องเข้าใจผิด และกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
ชมรมแพทย์ชนบทเห็นว่า การชี้แจงดังกล่าวยิ่งตอกย้ำว่า กระทรวงการคลังไม่ถอย เพียงแต่พยายามอธิบายอย่างเอาสีข้างเข้าถู เพื่อไถไปให้พ้นๆตัวและซื้อเวลาจากความร้อนระอุที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หลักฐานที่ชัดเจนที่เอาสีข้างเข้าถูคือ การที่ประกาศฉบับนี้ได้ระบุข้อความว่า พนังงานกระทรวงสาธารณสุข เพราะเป็นกลุ่มที่มีข้อตกลงไว้ก่อนแล้วในระเบียบเงินบำรุง พ.ศ.2561
ขณะที่คนทั้งประเทศ รวมถึงปลัดและรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก็ให้สัมภาษณ์สื่อว่าเดิมก็เข้าใจว่ากระทบ คำชี้แจงของอธิบดีกรมบัญชีกลาง จึงเป็นเพียงการเลี่ยงบาลีเหมือนศรีธนนชัยในภายหลังเท่านั้น
อีกทั้งในระเบียบเงินบำรุงปี 2561 เอง ซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ระบุชัดเจนว่าได้ประเคนอำนาจในการพิจารณาขั้นสุดท้ายให้กับกระทรวงการคลังไปแล้ว โดยที่คนในกระทรวงส่วนใหญ่แทบจะไม่ทราบเรื่อง ซึ่งเป็นอีกหายนะที่คนในกระทรวงสาธารณสุขเพิ่งจะรับรู้
ดังนั้นการที่กระทรวงการคลังอ้างว่าไม่กระทบนั้น จึงไม่จริง เพราะสุดท้ายการขออนุมัติจ้างลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณก็ต้องไปจบที่กระทรวงการคลังตามประกาศที่ได้ระบุไว้อยู่ดี ตามข้อ 10 ในระเบียบเงินบำรุง พ.ศ.2561
ชมรมแพทย์ชนบท จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้
1.ขอให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างลูกจ้างเงินนอกงบประมาณ ซึ่งลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 โดยขอให้รมต.คลังลงนามยกเลิกคำสั่ง ไม่ใช่ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางมาแก้ไข อธิบดีจะใหญ่กว่าการลงนามของรัฐมนตรีช่วยไม่ได้
2. ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแก้ไขระเบียบเงินบำรุงปี 2561 ให้กระจายอำนาจให้สถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขมีอิสระในการบริหารเงินบำรุงให้มีประสิทธิภาพตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้ตอบสนองต่อการจัดบริการเพื่อประชาชนและแข่งขันเอกชนได้ เหมือนระเบียบเงินบำรุงฉบับก่อนหน้านี้
3.การออกระเบียบใหม่หรือแก้ไขระเบียบเดิมที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ ต้องมีผู้แทนของสถานบริการในพื้นที่ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งเข้าร่วมทุกครั้ง
ชมรมแพทย์ชนบขอย้ำว่า การออกระเบียบกระทรวงการคลังฉบับนี้ ระบุไว้ชัดเจนว่ามุ่งเน้นกับลูกจ้างของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคลุมไปถึงทุกสาขาวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ นักเทคนิคการแพทย์ นักรังสีการแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน และอีกกว่า 20สาขา
ขออธิบดีกรมบัญชีกลางและปลัดกระทรวงสาธารณสุขอย่าเอาสีข้างเข้าถู หากยังเอาสีข้างเข้าถู ซื้อเวลา ปัดให้พ้นตัว ปล่อยให้เป็นระเบิดเวลาที่จะกระทบต่อการจัดบริการช่วยชีวิตประชาชน กระทรวงการคลังต้องรับผิดชอบ และข้อเรียกร้องทั้ง 3 ประการไม่ได้รับการตอบสนองแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว การแสดงออกถึงการคัดค้าน จะขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น อย่างต่อเนื่อง การรวมพลังของพี่น้องชาวสาธารณสุขทุกระดับก็ย่อมมีความจำเป็น ต้องไปรวมตัวเพื่อแสดงออกหน้ากระทรวงการคลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2561 นี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ มีบางโรงพยาบาลขึ้นป้ายคัดค้านประกาศระเบียบของกระทรวงการคลังดังกล่าว และมีการโพสต์ในโซเชียลมีเดีย