รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563
“ม็อบราษฎร” นัดรวมพลใหญ่ 8 พ.ย. ใช้กลยุทธ์เดินขบวน ตั้งต้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย “ไล่ประยุทธ์ – องคาพยพ” ที่มาแบบไม่ถูกต้อง! พร้อมย้ำ 3 จุดยืน ทำให้ประเทศไทยกลับมาสง่างาม ชี้! นี่คือทางเลือกเดียวที่จะพาประเทศหลุดพ้นปัญหา
ขณะที่ นักวิเคราะห์ Talking Thailand มองปมรัฐบาลแก้เกี้ยว เอาผิดม็อบด้วยการแจ้งข้อหาร้ายแรง ทั้งที่การชุมนุมไล่ประยุทธ์ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน!
เฟซบุ๊ก “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration” โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “เราจะชนะได้รึเปล่า? เราจะเดินไปสู่จุดไหน เราจะทำให้จบในรุ่นเราได้จริงหรือไม่ คำถามเหล่านี้ไม่มีใครสามารถตอบได้ แต่สิ่งเดียวที่เราตอบได้คือ ถ้าทุกคนออกมาให้ได้มากที่สุด เราได้ขับเคลื่อนกงล้อแห่งประวัติศาสตร์นี้ไปข้างหน้าร่วมกันแล้ว
ไม่มีอะไรมาประกันความสำเร็จ แต่สิ่งเดียวที่ช่วยยืนยันว่าแสงสว่างของประชาชนอยู่ไม่ไกล คือการออกมาของประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศ เป็นเวลากว่า 4 เดือนนับตั้งแต่มีการเริ่มออกมาประท้วงบนท้องถนน ออกมาร่วมกันให้แสงสว่างนั้นขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม
8 พฤศจิกายนนี้! เวลา 16.00 น. ออกมาร่วมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเตรียมเดินขบวน เขียนจดหมายของทุกคน เพื่อเตรียมยื่นถึงกษัตริย์ของเรา ขอทุกคนจงออกมาร่วมกันยืนยันว่าประเทศนี้ดีกว่านี้ได้ ร่วมกันยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้อง
1.ประยุทธ์และองคาพยพต้องออกไป! เนื่องจากมีที่มาอย่างไม่ถูกต้อง และเพื่อเปิดทางให้ประเทศไทยกลับไปสู่ครรลองของระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่จากประชาชน เพื่อนำพากติกาที่เป็นธรรม และไม่บิดเบี้ยว เป็นกติกาที่เขียนเพื่อประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ที่มีความหมายว่าทำให้ดีขึ้นและให้กลับมาอยู่ใต้รัฐธรรมนูญเพื่อให้สามารถดำรงอยู่ในประเทศไทยได้อย่างสง่างาม
นี่ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือหนทางเดียวที่จะนำพาประเทศหลุดพ้นวิกฤตนี้ได้! #ม็อบ8พฤศจิกา #ราษฎร”
ขณะที่วันนี้ (5 พ.ย. 63) ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำประชาชนปลดแอก พร้อมนายศุภณัฐ บุญสด ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าพบตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ตามหมายเรียก กรณีการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ในข้อหา “ร่วมกันกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนโดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมืองฯ” ตามกฎหมายอาญา มาตรา 116
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า ตอนนี้มีคดีความทั้งหมด 4 คดี ในนี้เป็นหมายจับ 1 คดี โดยวันนี้ได้มารายงานตัวตามหมายเรียกในข้อหายุยงปลุกปั่นตามกฎหมายอาญามาตรา 116 จากการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งการมารายงานตัวในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำตามกระบวนการของกฎหมายเช่นกัน แต่จะมีการจับกุมในคดีอื่นหรือไม่นั้น ก็ต้องดูตามข่าวกันต่อไป
"ไม่มีความกังวลใจ เพราะรู้ว่านี่เป็นเกมของรัฐบาลที่ต้องการตัดความสำคัญของเรา ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกร้องกันต่อไป ทั้งนี้ จะให้การปฏิเสธ โดยทนายความจะเป็นผู้ต่อสู้ทางคดี"น.ส.ภัสราวลี กล่าว