รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 11 พฤษภาคม 2563
นักวิเคราะห์ Talking Thailand เห็นพ้อง เชื่อ! “อภิสิทธิ์” ไม่ขอโทษ “คนเสื้อแดง” เหตุคำสั่งสลายม็อบตามที่ “บก.ลายจุด” แอบหวังหากอดีตผู้นำถึงคราวลาโลก“คำผกา” ชี้! เป็นไปได้ว่า “อภิสิทธิ์” จะไม่มองว่าตัวเองผิด แต่ต้องทำเพราะต้องการ “รักษาชาติบ้านเมือง” ทั้งที่ “คนเสื้อแดง” เรียกร้องแค่ให้ “ยุบสภา”
ส่วนคนชื่อ “สุเทพ” นั้น....แอดอยากให้ฟัง คุณอาใบตองแห้ง ในคลิปจ้า!
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ "บก. ลายจุด" หัวหน้าพรรคเกียน กล่าวถึง วาระ 10 ปี เหตุการณ์ "เมษา-พฤษภา 53" ว่า เเม้ปกติการครบรอบทศวรรษเหตุการณ์สำคัญจะมีการจัดงานรำลึกอย่างยิ่งใหญ่ แต่ช่วงนี้มีสถานการณ์โควิด-19 ระบาด กิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการชุมนุม อาจถูกสังคมวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมได้ แต่การที่ญาติผู้สูญเสียจะทำบุญหรือจัดเป็นงานเล็กๆไม่น่าจะถูกคัดค้าน ซึ่งถือเป็นความท้าทายการออกเเบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แต่หากไม่ได้จัดหรือเลื่อนการจัดงานออกไป เชื่อว่า หลายฝ่ายเข้าใจและยอมรับได้ ส่วนตัวมีรูปแบบกิจกรรมรำลึก "10 ปี เมษา-พฤษภา 53" ที่กำลังชั่งใจและพิจารณาอยู่ ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เหมาะสม ซึ่งไม่เปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้
บก.ลายจุด ระบุถึง การนำผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการสังหารผู้ชุมนุมมาเข้าสู้กระบวนการยุติธรรม หรือ ถูกตัดสินความผิดโดยศาลนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยยกกรณี "อาชญากรรมรัฐ 6 ตุลา 2519" ว่าล่วงเลยมา 40 กว่าปี ก็ยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งหาก นำผู้ก่ออาชญากรรมรัฐไม่ว่ากรณีใด มาลงโทษได้ จะถือเป็นมิติใหม่ ที่ชี้วัดความอารยะทางสังคมการเมืองของไทย
บก. ลายจุด ยืนยันว่า แม้ไม่สามารถตัดสินโดยศาลได้ แต่ทำให้สังคมตัดสินได้ ด้วยการไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าผู้ผ่านเหตุการณ์จะไม่มีวันลืมสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ไม่มีการจัดงานรำลึกในแต่ปีก็ตาม สิ่งสำคัญคือการต้องออกแบบการนำเสนอต่อสังคมในแต่ละยุคสมัย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงมิติต่างๆกับเรื่องราวทางการเมืองหรือเหตุการณ์อื่นๆ โดยยกตัวอย่างถึง ผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ "เมษา-พฤษภาคม 53" จะเชื่อมโยงและมีอารมณ์ร่วมกับ เหตุการณ์ "6 ตุลาคม 2519" ได้ แม้เกิดต่างยุคสมัย
ขณะเดียวกัน ในปัจจุบันแทบไม่เห็นผู้ที่ออกตัวว่าสนับสนุนการสังหารหมู่นิสิตนักศึกษาเมื่อปี 2519 ทั้งที่ในอดีตมีผู้สนับสนุนอาชญากรรมรัฐครั้งนั้นจำนวนมากและยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้น ในอนาคตผู้ที่สนับสนุนการปราบปรามประชาชนเมื่อปี 53 ซึ่งยังมีอยู่ในตอนนี้อาจจะเปลี่ยนความคิดตามพัฒนาการทางสังคมการเมืองไทย ซึ่งต้องใช้เวลา
บก.ลายจุด ระบุด้วยว่า สิ่งที่น่าสนใจในประเด็นนี้คือ กลุ่มคนที่จัดกิจกรรม Big cleaning หลังประชาชนถูกสังหารกลางเมืองเมื่อปี 2553 นั้น คิดและรู้สึกอย่างไร และปัจจุบันจะมองว่า เลือดคนเสื้อแดงชั่วร้ายควรล้างออกจากสังคมไทยหรือจะมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดงคือ "อาชญากรรมรัฐ"
และยังแอบหวังลึกๆว่า ก่อนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีจะสิ้นลมหายใจ อาจได้เห็นการ ออกมายอมรับผิดหรือแสดงความรู้สึกผิดอย่างจริงใจ เพราะเชื่อว่า นายอภิสิทธิ์ จะต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่กล้าหาญพอที่ยอมรับ
เมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) ปรากฎข้อความปริศนา “ตามหาความจริง” และข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์สลายการชุมนุม กลุ่ม นปช. ในช่วงเดือน พ.ค.2553 ถูกฉายด้วยลำแสงเลเซอร์ในหลายจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทั้งซ.รางน้ำ วัดปทุมฯ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กระทรวงกลาโหม และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 กล่าว ว่า การฉายโปรเจคเตอร์ในลักษณะนี้มีหลายท้องที่ในกรุงเทพฯ สำหรับในพื้นที่ บก.น.6 นั้น ตนสั่งการให้ตำรวจโรงพักในท้องที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมข้อมูลรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงรับทราบ พร้อมสั่งการให้ออกตรวจตรา หากมีเหตุเกิดขึ้นอีกให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาซักถาม แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่ากระทำดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ อย่างไร เพราะต้องตรวจสอบก่อน