หัวเว่ยแถลงผลประกอบการปี 2018 มียอดรวมกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กำไรเพิ่มขึ้น 25 % ระบุเป็นเพราะยอดขายสมาร์ตโฟนในจีนพุ่ง
แถลงการณ์ผลประกอบการประจำปี 2018 ของหัวเว่ยล่าสุดระบุว่า ในปี 2018 หัวเว่ยทำยอดขายผลิตภัณฑ์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 19.5 % โดยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 107,000 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 25 % หรือกว่า 59,300 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ผลกำไรสุทธิยังน้อยกว่าปีก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้นมากถึง 28 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ในปี 2018 เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากยอดขายสมาร์ตโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในประเทศจีน
ทั้งนี้ ในปี 2018 ยอดขายสมาร์ตโฟนของหัวเว่ยเพิ่มขึ้นถึง 45 % โดยสามารถขายสมาร์ตโฟนได้กว่า 200 ล้านเครื่อง ทำให้มียอดขายสูงถึง 52,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ในหน่วยธุรกิจที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของหัวเว่ยจะมียอดขายตกลงทั่วโลก 1.3 % โดยมียอดขายอยู่ประมาณ 44,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเหตุที่ลดลงนั้นมาจากการแบนเทคโนโลยีของหัวเว่ย โดยเฉพาะเทคโนโลยี 5G ที่บรรดาประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ ทั้งในยุโรป ออสเตรเลียและนิวซีเเลนด์ ต่างมีมติยับยั้งการลงทุน 5G ของหัวเว่ย เนื่องจากความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยระบุว่า ในปี 2019 จะลงทุนในเรื่องการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 14 % ของยอดขายในปีนี้ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 5G และอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ โดย 'เกา ปิง' หนึ่งในผู้บริหารสูงสุดของบริษัท กล่าวว่า ในปี 2019 เขาเชื่อว่าธุรกิจ 5G จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุตสาหกรรมการสื่อสารในอนาคตจะต้องพึ่งพาเทคโนโลยี 5G และอนาคตของเทคโนโลยีการสื่อสารตัวนี้จะมีส่วนสำคัญในวงการอุตสาหกรรมอื่น ๆ ต่อไป