ผลการศึกษาล่าสุดเผยว่า คนยุคมิลเลนเนียลมักแชร์ภาพขณะท่องเที่ยวที่ดูมีความสุขเกินจริงลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการแข่งขันกับคนอื่น ไปพร้อมกับการบิดเบือนความเป็นจริง

บริษัทประกัน อลิอันซ์ โกลบอล แอสซิสแทนซ์ เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยว Vacation Confidence Index ซึ่งเน้นศึกษาบทบาทของโซเชียลมีเดียที่ส่งผลต่อคนอเมริกันเจเนอเรชันต่าง ๆ ขณะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยนำข้อมูลมาจากโพลของอิปซอส (Ipsos) ที่สอบถามความเห็นของผู้ใหญ่รวม 1,005 คนในอเมริกา

ผลสำรวจพบว่า กลุ่มคนที่มักใช้โซเชียมีเดียในการบันทึกการเดินทางคือ คนยุคมิลเลนเนียลที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี โดย 63 เปอร์เซ็นต์ของมิลเลนเนียลให้เหตุผลว่า โพสต์เพื่อจะได้กลับมานึกถึงทริปนั้นอีกครั้ง ขณะที่ 37 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่าโพสต์เพื่อต้องการให้เพื่อนและครอบครัวอิจฉา และมี 27 เปอร์เซ็นต์ที่บอกว่าต้องการแข่งกับคนอื่นว่าใครพักร้อนได้ดีกว่ากัน

นอกจากนั้น มิลเลนเนียล 36 เปอร์เซ็นต์ยังยอมรับว่า ได้โพสต์ภาพที่ทำให้ทริปนั้นดูดีเกินความเป็นจริง โดยผู้เขียนรายงานได้เรียกพฤติกรรมนี้ว่า ‘การหลอกลวงทางโซเชียลมีเดีย (social media deception)’ ซึ่งมิลเลนเนียลเพศชายมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมนี้สูงกว่าเพศหญิง

การศึกษานี้ยังทำให้เห็นว่าอายุที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ทำให้หลงตัวเองน้อยลง โดยคนเจนเอ็กซ์ที่มีอายุระหว่าง 35-54 ปี 45 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่ามักแชร์ภาพการท่องเที่ยวที่ตัวเองดูดีกว่าความเป็นจริง ส่วนคนยุคเบบี้บูมเมอร์ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มที่จะทำพฤติกรรมดังกล่าว 20 เปอร์เซ็นต์

สำหรับโซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลต่อผู้คนทางด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดคือ เฟซบุ๊ก ตามด้วยอินสตาแกรม พินเทอเรส และทวิตเตอร์ โดยโพสต์จากเพื่อนและครอบครัวสามารถจูงใจได้มากกว่าเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนดัง ซึ่งมิลเลนเนียล 51 เปอร์เซ็นต์ยังยอมรับว่า วางแผนการท่องเที่ยวโดยพิจารณาจากโพสต์ที่เห็นในโซเชียลมีเดีย