ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแนะวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจช่วงสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อโลก ชี้ "การเมืองต้องนิ่ง ทุกฝ่ายต้องมองประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก"

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำจากสงครามการค้าของสหรัฐอเมริกากับจีน ทำให้กระทบเศรษฐกิจในประเทศ ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในระยะเร่งด่วน และการเมืองต้องนิ่ง ทุกฝ่ายต้องมองประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก โดยมีเนื้อหาดังนี้

“เศรษฐกิจโลกตกต่ำ อย่ามองลบด้านเดียว

    หลายท่านที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจ คงรับรู้ว่าสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ปกติอย่างมาก โดยมีหลากหลายปัจจัยมากระทบ โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าทุกปัจจัยเกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกในสัดส่วนที่สูงมาก

    เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการส่งออกของไทย ในช่วงไตรมาสแรกของปี 62 ติดลบ 3.6% โดยเกิดจากการหดตัวของการส่งออกในเกือบทุกอุตสาหกรรม ไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้นมีได้รับผลกระทบด้านการส่งออกจากปัจจัยลบของเศรษฐกิจโลก แต่ทุกประเทศในภูมิภาคเอเชียมีผลการส่งออกที่หดตัวกันถ้วนหน้า

     วันนี้ประเทศไทยโชคดีที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจเข้มแข็ง เช่น ตัวอัตราการว่างงานที่ยังต่ำ ภาระหนี้สาธารณะยังต่ำกว่าเพดาน อัตราเงินเฟ้อต่ำ และเงินสำรองระหว่างประเทศสูง ในระยะเร่งด่วน ประเทศไทยจะต้องเพิ่มกำลังซื้อในประเทศด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเพิ่มการลงทุนในประเทศ ปลดล็อคอุปสรรคต่างๆให้กับประชาชนและภาคธุรกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

รัฐบาลชุดใหม่ที่ใกล้จะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้ เชื่อว่าต้องพบกับภารกิจที่หนักหน่วงที่จะรับมือกับเศรษฐกิจโลก 

    ส่วนตัวผมเองมองว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนในขณะนี้ เป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะสร้างเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวใหม่เพื่อสร้างให้ประเทศไทยสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน

    สำคัญอยู่ที่การเมืองต้องนิ่ง ทุกฝ่ายมองเป้าหมายประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก จึงจะทำให้กระบวนการบริหารจัดการราบรื่น รวดเร็ว ทันกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ผันผวน”