วันที่ 2 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่ จ.อยุธยาฯ และพื้นที่อื่นในลักษณะซ้ำซากว่า บริษัทสารเคมีต่างๆ ที่เกิดเหตุไฟไหม้บ่อยครั้งนั้น มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า เป็นไฟไหม้เพื่อหลบเลี่ยงประเด็นอื่นหรือไม่ เช่น การถูกสั่งให้ย้ายสารเคมีแล้วไม่อยากเคลื่อนย้าย จนสร้างสถานการณ์ให้เกิดอุบัติเหตุ จึงอดคิดไม่ได้ว่า เหตุใดทำไมทุกครั้งต้องจบที่เพลิงไหม้ 

ณัฐชา กล่าวต่อว่า ถ้านายทุน หรือกลุ่มทุนเหล่านี้แก้ปัญหาโดยการเอารัดเอาเปรียบสังคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ฯลฯ ควรจะลงรายละเอียดเชิงลึกไปถึงเจ้าของโรงงานเดียวกันที่อยู่ในหลายจังหวัดซึ่งมีพฤติกรรมแก้ไขปัญหาแบบเดียวกันทั้งหมดหรือไม่ หากจุดจบอยู่ที่เพลิงไหม้ทุกครั้ง ต้องหาความจริงให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้ ไม่เช่นนั้น กลุ่มทุนก็จะเอารัดเอาเปรียบ โดยการแก้ปัญหาแบบเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง 

ส่วนกรณีที่ จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลาออกจากราชการนั้น ณัฐชา กล่าวว่า บรรทัดฐานความรับผิดชอบของไทยกับต่างชาติต่างกัน ในต่างประเทศหากเกิดเหตุอะไรขึ้นจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างสุดความสามารถให้เสร็จก่อนที่จะลาออก แต่วันนี้เมื่อเกิดเหตุกลับลาออกทันที เป็นการลอยแพลูกน้องที่ไม่รู้จะไปทิศทางไหน ตนจึงมองว่า ควรใจเย็นๆ หากเกิดปัญหาแล้วก็ต้องช่วยกันแก้ก่อน หากจะอยากแสดงสปิริตความรับผิดชอบก็ค่อยทำได้เลย 

ณัฐชา กล่าวต่อว่า คนระดับอธิบดี หรือข้าราชการระดับสูงคงไม่ประกาศลาออกง่ายๆ จึงน่าจะมีแรงกดดันภายในสูงพอสมควร ทั้งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือภายในองค์กรเองที่ไม่สามารถตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดได้ รวมถึงไม่สามารถแก้ไขไปในทิศทางไหนได้ จนแรงกดดันนั้นทำให้เกิดการลาออก ซึ่งย้ำว่า ควรจะช่วยกันแก้ปัญหาให้เรียบร้อยก่อน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้หลุดพ้นจากปัญหา เนื่องจากเป็นภารกิจของอธิบดีโดยตรง

อย่างไรก็ตาม การลาออกของอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมนั้นถูกมองว่าเป็นการลอยตัวเหนือความผิด ณัฐชา มองว่า หากลาออกไปแล้วความผิดก็สามารถตามกันไปได้ ถ้าเป็นการกระทำความผิดในห้วงเวลาที่มีตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ และเข้าไปมีส่วนรู้เห็นในการกระทำครั้งนี้ ไม่ว่าจะลาออก หรือหนีไปที่ไหนก็สามารถกลับมาถูกดำเนินคดีได้ เพราะที่ผ่านมา เราจะเห็นข้าราชการหลายคนที่ลาออกไปแล้ว สุดท้ายก็มาเป็นคดีความ หลังจากนั้น 4-5 ปี มีการตัดสินคดีก็ต้องกลับมารับโทษอยู่ดี