นพ.ระวี มาศฉมาดล นำสมาชิกพรรคพลังธรรมใหม่ แถลงข่าวภายหลังได้รับหนังสืออนุมัติคำขอจดตั้งพรรคใหม่จากคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับกล่าวว่า พรรคพลังธรรมใหม่จะมีการนัดประชุมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคและเปิดตัวหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการ ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พร้อมยืนยันว่าพล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม ได้ยุติบทบาททางการเมืองแล้ว
ส่วนการจัดตั้งพรรคเพื่อให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคการเมืองอย่างแท้จริง และต้องการพรรคการเมืองที่ขาวสะอาดไม่คดโกง เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประเทศชาติ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมก่อตั้งพรรคในวันดังกล่าว
ขณะที่ ในปัจจุบันพรรคพลังธรรมใหม่ มีความกังกลในการใช้งบประมาณของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งตลอด 4 ปี ที่ผ่านมามีการใช้งบประมาณเกินดุลไปกว่า 1.79 ล้านล้านบาท และมีปี 2561 รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเกินดุลถึง 600,000 ล้านบาท จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการใช้งบประมาณและติดตามอย่างรอบคอบอย่าให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีรัฐบาลไหนใช้งบเกินดุลอย่างมหาศาล พร้อมขอเตือนรัฐบาลว่าอย่าใช้งบหาเสียงแบบประชานิยมมากเกินไป ซึั่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศในระยะยาว แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศว่าตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 แต่หลังจากลงพื้นที่พบว่าปัญหาปากท้องของประชาชนกับสวนทางตัวเลขของ GDP
เมื่อถามว่าพรรคพลังธรรมใหม่มีจุดยืนอย่างไร หากพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ คนนอก นพ.ระวี กล่าวว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการดำรงตำแหน่งต่อ ต้องตั้งพรรคทหารขึ้น เพื่อเป็นหนึ่งใน 3 รายชื่อที่พรรคทหารจะเสนอชื่อเป็นนายกฯ เพราะการเป็นนายกฯ คนนอกต้องใช้ 500 เสียงโหวต ซึ่งเป็นไปได้ยาก
ในส่วนการเลือกนายกฯ พรรคพลังธรรมจะเลือกคนดีที่สุดของพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง โดยผ่านประชามติของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ เพื่อโหวตเลือกนายกฯ ในขณะที่การเลือกนายกฯ คนนอก พรรคพลังธรรมใหม่จะเลือกคนดีที่สุดเช่นเดียวกัน ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร
อ่านเพิ่มเติม